ทำงานกรุงเทพ ทำประกันชีวิตดีอย่างไร
หลายๆ คนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ คงจะมีจุดประสงค์แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะมาทำงานที่กรุงเทพฯ หรือมาเพื่อใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วถ้าต้องการใช้ชีวิตคนเมืองแบบสบายใจหายห่วงควรทำประกันชีวิตแบบไหนดีล่ะ ถึงจะเหมาะสมและไม่เกินความจำเป็น วันนี้ TPIS จะมาแนะนำประกันชีวิตสำหรับคนกรุงเทพฯ กัน
วัตถุประสงค์การทำประกันชีวิต
ประกันชีวิตนั้นมีหลายรูปแบบจุดประสงค์ก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น ต้องการความคุ้มครองชีวิต และออมหรือลงทุนไปในตัว ก็จะเหมาะกับการทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตยูนิตลิงค์ ถือเป็นการออมและการลงทุนอย่างหนึ่งที่ต้องมีวินัย แต่ถ้าเรามองไกลถึงวัยเกษียณ
การวางแผนทำประกันชีวิตบำนาญก็จะช่วยเราได้มากเพราะเราจะมีเวลาจ่ายค่าเบี้ยได้ยาวนาน ทำให้ค่าเบี้ยที่จะต้องจ่ายต่อครั้งถูกลง และนอกจากจะได้รับเงินรายปีไว้ใช้ยามเกษียณแล้วยังคุ้มครองชีวิตเราอีกด้วย แต่รายละเอียดประกันชีวิตแบบไหนจะเหมาะกับชีวิตคนเมืองคนกรุงเทพอย่างไร ลองอ่านกันดูนะครับ
คนกรุงเทพเลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี
สำหรับคนที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว หรือกำลังทำงานตามต่างจังหวัดต่างๆ ก็ตาม แนะนำว่า ซื้อประกันชีวิตสะสมทรัพย์ติดตัวไว้ เพราะนอกจากจะได้รับความคุ้มครองชีวิตแล้ว เมื่อครบอายุสัญญาคุณจะได้รับเงินก้อนพร้อมผลตอบแทน หรือทำควบคู่กับประกันบำนาญที่ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินคืนเราเป็นรายปี
เมื่ออายุครบ 55-60 ปี และถ้าเราทำงานที่ต้ทำประกันชีวิตองมีการเดินทางหรือต้องใช้รถ จะทำประกันอุบัติเหตุหรือประกันภัยรถยนต์เพื่อปกป้องค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไว้ด้วยก็ได้ และที่สำคัญประกันชีวิตบำนาญสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท หรือจะลดหย่อนภาษี โดยใช้ประกันชีวิตทั่วไป 100,000 บาท + ประกันบำนาญ 200,000 บาทก็ได้ (ยกเว้นประกันชีวิตระยะสั้น ทุนประกันสูงๆ จะไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้)
ประกันชีวิตช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน
หากเราใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง มีอายุที่เยอะขึ้น มีครอบครัว ทำให้ความรับผิดชอบเราเยอะขึ้นเราจำเป็นจะต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดีขึ้น จึงต้องป้องกันความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือทรัพย์สิน การทำประกันต่างๆ จะช่วยเราแบ่งเบาภาระ และทำให้เบาใจลงได้มาก เช่น ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ
ที่สำคัญการวางแผนซื้อประกันชีวิตไว้เพื่อให้คนในครอบครัวไม่เดือดร้อน สำหรับกรณีที่ไม่สามารถดูแลครอบครัวต่อไปได้ และถือเป็นการส่งต่อมรดกให้ลูกหลานหากมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะเลือกซื้อประกันชีวิตระยะสั้น หรือประกันชีวิตตลอดชีพ ก็ได้
อย่าซื้อประกันชีวิตเกินความจำเป็น
หากคิดว่าการซื้อประกันชีวิตไว้เยอะๆ จะทำให้เราหมดห่วงอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องมากนักเพราะ อาจจะส่งผลให้มีปัญหาเรื่องการเงินไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ ควรจะเลือกทำประกันให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ และไม่ควรซื้อประกันซ้ำซ้อนกัน
อย่างเช่น ถ้าเรามีประกันชีวิตตลอดชีพแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทำประกันชีวิตระยะสั้นเพิ่มก็ได้ แต่ควรมองหาประกันด้านอื่นๆ มาช่วยป้องกันความเสี่ยงแทน เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันอื่นๆ
สรุป
สุดท้ายนี้ถึงแม้การทำประกันชีวิตจะช่วยรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในชีวิต ทำให้หมดห่วงเรื่องคนข้างหลังได้ แต่การได้ดูแลครอบครัวด้วยตัวของคุณเองก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ ด้วยความห่วงใยจาก TPIS