ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง? ตอบโจทย์ความต้องการไหม มาดูกัน!
Key Takeaways
- ประกันชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายหลายด้าน ทั้งทรัพย์สินของบุคคลภายนอก, การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย ผู้โดยสารในรถ และบุคคลภายนอก อีกทั้งยังคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการประกันตัวผู้ขับขี่อีกด้วย
- ข้อดีของประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 คือ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าแผนประกันแบบอื่น ๆ และยังสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมตามความต้องการได้ อีกทั้งยังช่วยให้ขับขี่รถยนต์ได้มั่นใจและอุ่นใจมากขึ้น
หลังจากที่ได้ขับรถมาหลายปี ก็ค้นพบว่าไลฟสไตล์การขับของตัวเอง บวกกับสภาพคล่องทางการเงินในปัจจุบัน อาจจะไม่เหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้น 2 เนื่องจากราคาแรงแบบสู้ไม่ไหว เลยสนใจจะเปลี่ยนมาใช้ประกันรถยนต์ชั้น 3 แทน วันนี้ TPIS เลยจะมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 3 ว่าสามารถคุ้มครองอะไรบ้าง? มีข้อดียังไง? และเหมาะกับใคร? เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มองหาความประหยัดและความคุ้มค่า
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 คืออะไร?
ประกันชั้น 3 คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่มาพร้อมเบี้ยประกันราคาประหยัด ซึ่งก็จะได้รับความคุ้มครองน้อยตามเบี้ยประกันที่จ่าย และจะไม่ครอบคลุมเท่ากับประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้น 2 เนื่องจากประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถเพียงเท่านั้น โดยไม่ได้คุ้มครองถึงความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันในทุกกรณี
ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง?
- คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 จะคุ้มครองทรัพย์สินในส่วนของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถเท่านั้น
- คุ้มครองชีวิตของเราและบุคคลภายนอก เมื่อมีอาการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของทั้งตัวเราเอง ผู้โดยสารในรถ และบุคคลภายนอก
- คุ้มครองการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ให้แก่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร ในกรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
- คุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่ เมื่อรถยนต์ที่ทำประกันชั้น 3 ไว้เกิดประสบอุบัติเหตุ บริษัทประกันจะจ่ายค่าประกันตัวให้กับผู้เอาประกันภัย รวมถึงผู้ขับขี่ที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
ข้อดีของประกันรถยนต์ชั้น 3 มีอะไรบ้าง?
1. ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าแผนประกันแบบอื่น ๆ
เป็นหนึ่งในข้อดีหลัก ๆ ที่ทำให้คนหลายคนสนใจประกันชั้น 3 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คุ้มครองได้อย่างครอบคลุมเหมือนประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ก็ตาม เนื่องจากหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้รถหรือขับรถมานานจนชำนาญมาก ๆ แล้ว จึงคิดว่าประกันชั้นอื่นอาจจะไม่คุ้มค่าหรือไม่เหมาะกับตัวเองเท่ากับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
2. สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้
ด้วยไลฟ์สไตล์การขับรถของคนแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน บางคนรักรถและใช้รถบ่อยอาจจะเหมาะกับประกันชั้น 1 ในขณะที่อีกคนมีประสบการณ์การขับรถมานานบวกกับไม่ค่อยได้ขับไปไหนไกล ๆ ก็จะเหมาะกับประกันชั้น 3 มากกว่า และถ้าเกิดอยากได้ความคุ้มครองเพิ่มเติม ก็สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้ตามความต้องการ ซึ่งทำให้ได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเยอะ
3. ขับขี่รถยนต์ได้มั่นใจมากขึ้น
มีประกันชั้น 3 ไว้ ยังไงก็อุ่นใจกว่ามี พ.ร.บ. เพียงอย่างเดียว ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนใช้รถบ่อย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องขับรถไปไหนมาไหน ประกันชั้น 3 ก็ช่วยเรียกความมั่นใจมาได้มากพอสมควร และด้วยความคุ้มครองที่มีจึงสามารถช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างสบายใจ หรือในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ก็สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้หลายอย่าง
หลายคนคงจะเห็นแล้วว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ก็มีข้อดีหลายด้าน แถมยังคุ้มครองความเสียหายต่าง ๆ ได้อย่างตอบโจทย์ หากใครสนใจก็สามารถเช็กเบี้ยประกันออนไลน์ได้เลยที่นี่!
ใครบ้างที่เหมาะกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3?
ด้วยความคุ้มครองและเบี้ยประกันราคาประหยัดของประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 จึงเหมาะมากกับคนที่มีงบจำกัดหรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมไปถึงคนที่มีรถไว้ใช้ยามจำเป็น ไม่ได้ขับรถออกต่างจังหวัดหรือไปเที่ยวไหนบ่อย ๆ มีที่จอดรถที่ปลอดภัยมั่นใจได้ว่ารถจะไม่หายหรือไม่โดนน้ำท่วม มีความชำนาญในการขับรถ และมีไลฟ์สไตล์การขับที่เน้นปลอดภัยไม่เน้นซิ่ง ก็จะเหมาะกับประกันชั้น 3 แบบสุด ๆ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 กับชั้น 3+ คุ้มครองแตกต่างกันยังไง?
1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ว่า ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย ผู้โดยสาย และบุคคลภายนอก แต่จะคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเพียงเท่านั้น โดยที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมทรัพย์สินของตัวเองเอง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ความคุ้มครองของประกันชั้น 3+ จะมีความใกล้เคียงกับประกันชั้น 3 อยู่มาก เนื่องจากแบบประกันทั้ง 2 อย่างนี้จะไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือตัวรถของผู้เอาประกัน ในกรณีสูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม แต่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ จะพิเศษตรงที่ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกัน ในกรณีที่เกิดการชนแบบรถชนรถเท่านั้น
ความคุ้มครอง | ชั้น 3+ | ชั้น 3 | |
ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย | สูญหาย ไฟไหม้ หรือ ภัยธรรมชาติ | – | – |
อุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี | – | – | |
อุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี | ✓ | – | |
ความเสียหายต่อบุคคลภายในรถ | การบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต | ✓ | ✓ |
ค่ารักษาพยาบาล | ✓ | ✓ | |
ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ | ✓ | ✓ | |
ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก | การบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต | ✓ | ✓ |
ทรัพย์สิน | ✓ | ✓ |
ดังนั้นหากใครที่กังวลเรื่องค่าซ่อมรถของตัวเอง กลัวว่าวันหนึ่งขับรถออกจากบ้านแล้วจะไปชนกับรถคันอื่น ก็อาจจะเหมาะกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ แต่หากใครที่ไม่ค่อยได้ขับรถออกไปไหน นาน ๆ ทีจะออกจากบ้าน และมีความชำนาญในการขับรถมาก ก็จะเหมาะกับประกันชั้น 3 และหากใครอยากรู้ว่ารถตัวเองจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชั้น 3 หรือ 3+ เท่าไร ก็สามารถเช็กราคาประกันได้ที่นี่!
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง? เหมาะกับใคร? และมีข้อดีอย่างไร? ส่วนใครที่สนใจสมัครหรือต่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 แต่ยังต้องการสอบถามเบี้ยประกัน รวมถึงรายละเอียดความคุ้มครองทั้งหมด ก็สามารถให้ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิสเป็นผู้ดูแลในการเลือกแบบประกันภัยรถยนต์ที่ตรงใจคุณมากที่สุด เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ หรือเช็คเบี้ยประกันออนไลน์ได้ง่าย ๆ
สนใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์ กรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ได้เลย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ TPIS พร้อมติดต่อกลับทันที!
แจ้งข้อมูลเพื่อให้บริษัทติดต่อกลับ
TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส ที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์
เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ แถมยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน* สนใจสมัครประกันภัยรถยนต์กับตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
*ผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ