ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยู่ในรถปลอดภัยหรือไม่?

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยู่ในรถปลอดภัยหรือไม่?
  • ฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นฝุ่นขนาดเล็กสามารถเข้าสู่รถยนต์ได้ แม้จะมีแผ่นกรองอากาศหรือเครื่องปรับอากาศ
  • การอยู่ในรถก็ยังปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 กว่าข้างนอกรถแน่นอน

ณ ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เป็นต้นเหตุของอาการภูมิแพ้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดไมเกรน ไอแห้ง ผดผื่นคันผิวหนัง และอาจเป็นมะเร็งปอดได้หากฝุ่นซึมเข้าสู่กระแสเลือดมาก ๆ แล้วถ้าเราอยู่บนรถจำเป็นต้องป้องกันตัวจากฝุ่น PM 2.5 ขนาดไหน ต้องใส่หน้ากากอนามัย N95 เวลาขับรถด้วยหรือเปล่า TPIS จะมาให้คำตอบพร้อมวิธีรับมือกันครับ

ฝุ่น PM 2.5 มีผลต่อเราอย่างไร อยู่ในรถปลอดภัยไหม?

สำหรับคำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้รถอยู่ที่ไหน หรือขับรถไปที่ไหน เพราะถ้าหากเราขับรถหรือใช้รถในพื้นที่ ที่มีฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นรถจะไม่สามารถป้องฝุ่น PM 2.5 ให้เราได้ทั้งหมดควรใส่หน้ากากอนามัยในขณะอยู่ในรถด้วย

เพราะต่อให้อยู่ในรถที่มีตัวกรองอากาศ เครื่องปรับอากาศก็สามารถกรองฝุ่น PM 10 ได้เพียงประมาณ 50% และ กรองฝุ่นPM 2.5 ได้เพียง 5% เท่านั้น การอยู่ในรถจึงไม่ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5

วิธีแก้ไขปัญหาฝุ่นในรถ

หากรถไม่มีตัวกรองอากาศ เราสามารถดัดแปลงรถเพื่อติดตั้งแผ่นกรองแอร์ประเภท HEPA บริเวณที่ดูดลมภายในห้องโดยสารที่สามารถกรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอนได้ เพื่อกรอกฝุ่น PM 2.5

นอกจากนี้เราควรเปลี่ยนที่กรองอากาศ ทุก ๆ การใช้งานรถ 15,000 กม. และควรปรับระบบอากาศภายในรถเป็นโหมดหมุนเวียนภายในด้วย

ใช้เครื่องฟอกอากาศภายในรถ เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นนอกจากจะช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้แล้วยังสามารถกรองสารเคมี ก๊าซ เชื้อโรค หรือแบคทีเรีย ในอากาศได้แต่ก็แลกมากับความแพงของเครื่องฟอกอากาศด้วยเช่นกัน

เปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายในวิธีนี้อาจ โดยปกติรถทุกคันจะเปิดระบบนี้อยู่แล้วและสามารถช่วยลดฝุ่นที่จะเข้ามาในตัวรถได้ระดับหนึ่ง ดังนั้น เราไม่ควรจะเปิดประตูหรือหน้าต่างรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน

ฝุ่น PM 2.5 มีผลต่อรถอย่างไร?

นอกจาก PM 2.5 จะทำร้ายสุขภาพเราแล้ว ยังทำลายรถของเราอีกด้วย เพราะ ฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าไปสะสมและอุดตันรวมกับฝุ่นอื่น ๆ ที่กรองอากาศทำให้คอยล์รถเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกและเชื้อโรค ซึ่งจะกัดกร่อนทำให้คอยล์เกิดรูรั่วได้

นอกจากนี้ หากเราไม่หมั่นทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศ PM 2.5 จะทำให้ไส้กรอกอุดตันเป็นสาเหตุของแอร์รถยนต์ไม่เย็นและเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นอีกด้วย

สรุป

นอกจากการอยู่ในรถจะไม่ช่วยป้องกันเราจาก PM 2.5 แล้วยังทำลายรถของเราอีกด้วย ดังนั้นนอกจากดูแลสุขภาพ อย่าลืมที่จะดูแลรถของเราด้วยโดยเฉพาะใครที่อยู่ในพื้นที่ PM 2.5 หนาแน่นยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ

และควรหาประกันมาช่วยดูแลด้านต่าง ๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือ ประกันรถยนต์ สามารถเปรียบเทียบประกันที่เหมาะสมได้ที่ www.tripetchinsurance.com หรือ โทร.02-792-2160

สนใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์ กรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ได้เลย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ TPIS พร้อมติดต่อกลับทันที!

TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส ที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์

เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ แถมยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน* สนใจสมัครประกันภัยรถยนต์กับตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม