คุณจะประทับใจกับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม : 5 ร้านซูชิแสนอร่อยในญี่ปุ่น

คุณจะประทับใจกับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม : 5 ร้านซูชิแสนอร่อยในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไป โดยเฉพาะความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของคนในเมืองและคนในชนบทนักท่องเที่ยวก็สามารถที่เดินทางท่องเที่ยวชมความสวยงามได้อย่างไม่มีเบื่อ รวมไปถึงอาหารญี่ปุ่นที่มีหลากหลาย สร้างชื่อเสียงให้คนทั้งโลกได้ลิ้มรสถึงวัฒนธรรมการกินไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว หรือ ซูชิ หนึ่งในเมนูอาหารที่ว่ากันว่าหากมาญี่ปุ่นจะต้องไม่พลาดกับการกินซูชิรสชาติฉบับต้นตำรับ เพราะอาหารทะเลที่ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยความสด ความหวาน ปรุงแต่งใหม่ในทุก ๆ คำด้วยเชฟซูชิมืออาชีพ ซูชิที่ญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยความพิถีพิถันของเชฟที่ยากจะมีที่ใดเหมือน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกท่านจะไม่พลาดเมนูที่แสนอร่อยเมื่อมาเยือนญี่ปุ่น ขอแนะนำ 5 ร้านซูชิแสนอร่อยในญี่ปุ่นให้ได้ไปลองลิ้มกัน จะมีร้านไหนบ้าง ไปดูกันเลย

Sukiyabashi Jiro Honten

1. Sukiyabashi Jiro Honten

ร้าน Sukiyabashi Jiro Honten ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว เป็นหนึ่งในร้านซูชิที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ร้านนี้ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากจนนำมาสร้างเป็นหนังสารคดีเรื่อง Jiro Dreams of Sushi ซึ่งเป็นเรื่องราวของ ‘คุณโจโร่’ ที่มีความมุ่งมั่นและหลงใหลในการเป็นเชฟซูชิจนมีชื่อเสียงโด่งดังการันตีด้วยรางวัลมิชลิน 3 ดาว ติดต่อกันหลายปีซ้อน

ด้วยความพิถีพิถันเพื่อต้องการนำเสนออาหารและต้องการให้ผู้มาเยือนประทับใจมากที่สุด ร้าน Sukiyabashi Jiro Honten จึงจัดที่นั่งรองรับลูกค้าเพียงแค่ 10 ที่นั่ง ในคอร์สเมนูอาหารแบบ Omakase ซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด มาพร้อมการจัดเสิร์ฟที่สวยงามลงตัวและการผสมผสานรสชาติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดและความใส่ใจ เนื่องจากทางร้านมีจำนวนที่นั่งน้อยและต้องมีการจองล่วงหน้ามาก่อน ทำให้ไม่สามารถรับลูกค้าที่ Walk in ได้ โดยปัจจุบันคิวในการจองร้านซูจิดังกล่าวยาวนานนับปีกันเลยทีเดียว

ร้าน Sukiyabashi Jiro Honten เป็นสถานที่ที่ได้รับความนับถือในวงกว้างของคนรักอาหาร นักท่องเที่ยวและผู้คนที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารรสเลิศ ถึงแม้ว่าจะมีความยากลำบากในการเข้ารับประทานก็ตามเพราะปัจจุบันทางร้านไม่ได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้จองคิว แต่บอกได้เลยว่าหากคุณมีโอกาสบุญพาวาสนาส่งได้เข้าไปเป็นลูกค้าที่นี่ คุณจะพบว่ามันเป็นความพยายามที่สมกับการรอคอยแบบ 1000%

คอร์สโอมากาเสะ : เริ่มต้น 55,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : มื้อเที่ยง 11:30-14:00, มื้อเย็น 17:30-20:30 หยุดทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่อยู่ร้าน : SUKIYABASHI JIRO 4-2-15 Ginza, Chuo-ku, Tokyo Tsukamoto Sogyo Building B1F
การเดินทาง : ร้าน Sukiyabashi Jiro Honten ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเขตชิบุยะ ทำให้การเดินทางไปที่ร้านไม่ยากอย่างที่คิด เดินจากสถานี Ginza ออกทางออกอาคาร Asahi ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

Umi

2. Umi

อีกหนึ่งร้านซูชิในกรุงโตเกียวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดกับร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว 6 ปี ซ้อน Umi (อูมิ) รสชาติซูชิญี่ปุ่นแท้ ๆ พร้อมวัตถุดิบสด ใหม่ ทุกวัน การันตีคุณภาพ รับรองได้เลยว่าหากคุณได้ลิ้มรสจะติดใจ หัวหน้าเชฟ Koichi Taira เตรียมซูชิได้อย่างพิถีพิถัน อาหารทุกจานแฝงไปด้วยความเรียบหรูแต่เรียบง่ายซึ่งคู่ควรกับดาวมิชลินสองดวง เขาเลือกข้าวสำหรับทำเมนูนิกิริแต่ละชิ้นจากสามสายพันธุ์ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล คุณจะได้เห็นทักษะและความสามารถในการปรุงแต่งอาหารภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและเป็นกันเอง

ประกันการเดินทางตรีเพชรอินชัวรันส์

นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ ให้คุณได้พบกับรสชาติที่คุณต้องการ บรรยากาศภายในสะอาด สบายและเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและการบริการ

ด้วยความมีชื่อเสียงของร้าน แนะนำให้ลูกค้าจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน และควรไปถึงร้านก่อนเวลานัด เพราะหากมาสายเกินเวลาที่จองคิวเอาไว้ ทางร้านจะไม่เก็บคิวเอาไว้และไม่คืนเงินจองด้วยนะ ภายในร้านมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้คอยบริการที่หลากหลายและจำหน่ายให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไปเท่านั้น

คอร์สโอมากาเสะ : เริ่มต้น 30,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 17:30-23:00 หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่อยู่ร้าน : 3-2-8 Minami-Aoyama, Minato-ku, Tokyo
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tokyo Metro Ginza Line มาลงที่สถานี Gaiemmae Station และเดินต่อประมาณ 7 นาที

3. Sushi Fukumoto

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์ทานซูชิที่น่าตื่นเต้นและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น Sushi Fukumoto เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ!! เพราะร้านนี้ถือเป็นหนึ่งในร้านซูชิที่ได้รับความนิยมและความชื่นชมจากคนที่รักการทานอาหารทางญี่ปุ่นทั่วๆ ไป ด้วยความสดใหม่แบบเหนือระดับ

ที่ Sushi Fukumoto ทางร้านเน้นคุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบรวมถึงส่วนผสมทุกชนิด ท่านจะได้พบกับซูชิที่ได้รับการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ที่สำคัญที่สุดคือซูชิทุกชิ้นจะถูกทำให้เสร็จสมบูรณ์แบบคำต่อคำเพื่อให้คุณได้สัมผัสรสชาติและความสดชื่นที่ไม่มีใครเหมือน สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งของ Sushi Fukumoto คือ หนังของปลาแทบจะดูเหมือนเป็นงานศิลปะบนจานอาหารเลยทีเดียว เพราะมีดที่ใช้ตัดและหั่นนั้นถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างชำนาญโดยเฉพาะ ที่ Sushi

Fukumoto นอกจากจะได้ลิ้มรสปลาที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว ลูกค้ายังสามารถรับประทานและดื่มสาเกที่คัดสรรมาอย่างดีพร้อมๆ มื้ออาหาร ภายในร้านบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและอบอุ่น เหมาะสำหรับการทานอาหารกับครอบครัว หรือเพื่อน ๆ

คอร์สโอมากาเสะ : เริ่มต้น 24,140 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 17:20-20:00 หยุดทุกวันพุธ
ที่อยู่ร้าน : Sushi Fukumoto Hanabu Bldg. B1F, Daizawa 5-17-6, Setagaya-ku, Tokyo
การเดินทาง : สามารถเดินเพียง 10 นาที จากสถานี Shimokitazawa ก็ถึงที่หมายแล้ว

Ginza Kyubey

4. Ginza Kyubey

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์ทานซูชิที่มีความหรูหราและคุณภาพสูง ให้ฟีลเป็นลูกค้าระดับ VVIP ที่ยิ่งใหญ่อลังการ ร้าน Ginza Kyubey คือร้านซูชิที่หนึ่งที่คุณควรพิจารณา ร้านนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เนื่องจากให้บริการซูชิในแบบดั้งเดิม ด้วยประสบการณ์กว่า 88 ปี ในการให้บริการทานซูชิที่ดีที่สุดในกรุงโตเกียว ขนาดที่อดีตประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างนายโอบามายังได้เคยมาลิ้มลอง
Ginza Kyubey นำเสนอซูชิที่ทำให้คุณได้พบกับรสชาติที่น่าตื่นเต้นด้วยวิธีการปรุงที่ผสมผสานวัตถุดิบแต่ละชนิดได้อย่างลงตัว ทั้งข้าว ปลาดิบและวัตถุดิบอื่น ๆ ทุกชิ้นถูกคัดสรรและพิถีพิถัน ละเอียดลออ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าผู้มาเยือน พร้อมกับความเอาใจใส่เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ทานซูชิที่สด ใหม่ ไม่เหมือนใคร ที่ Ginza Kyubey ยังมีเมนูอีกหลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ ไม่ว่าคุณจะชอบซูชิที่มีรสชาติเข้มข้น หรือคุณต้องการลองชิมเมนูพิเศษที่ร้านก็มีให้เพื่อสร้างความประทับใจด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ
บรรยากาศภายในที่หรูหราและพิถีพิถัน ร้าน Ginza Kyubey มีบรรยากาศที่น่าทึ่งและหรูหรา การตกแต่งภายในร้านทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เชฟสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับเมนูที่เหมาะสมสำหรับคุณ พร้อมให้บริการที่สุดแสนประทับใจ … เพื่อความมั่นใจในการรับประทาน ควรทำการจองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อให้มีที่นั่งที่พร้อมในการบริการ

คอร์สโอมากาเสะ : เริ่มต้น 132,000 เยน/ 8คน โดยรับในรูปแบบกลุ่ม
เวลาเปิด-ปิด : มื้อเที่ยง 11:30-14:00, มื้อ17:00-22:00 หยุดทุกวันอาทิตย์ วันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์
ที่อยู่ร้าน : 7-6, Ginza 8-chome, Chuo-ku, 104-0061, Tokyo
การเดินทาง : ใช้เวลาเดิน 5 นาที จาก Tokyo Metro Ginza-line SHINBASHI Station ทางออก 3 หรือ JR-line SHINBASHI Station ทางออก Ginzaguchi

Harutaka

5. Harutaka

หากซูชิคืออาหารญี่ปุ่นเลิศรส Harutaka คือศิลปินเชฟอาหารที่รังสรรค์งานศิลปะบนชิ้นอาหารให้ผู้มาเยือนได้หลงใหลในรสชาติและหน้าตาของอาหาร ด้วยความสด สะอาด คัดสรรวัตถุดิบใหม่ในทุก ๆ วัน จึงทำให้นักชิมจากทั่วโลกได้รับประสบการณ์การกินซูชิที่สนุกสนานอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่รสชาติของอาหารเท่านั้น แต่คุณยังได้เห็นศิลปะอันสวยงามที่โดดเด่นด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งถูกจัดเตรียมมาอย่างดีจากเชฟผู้เชี่ยวชาญที่ได้ร่ำเรียนวิชาการเป็นเชฟซูชิจากปรมาจารย์จิโระนานกว่า 13 ปี ก่อนที่จะแยกทางไปตามความฝันของตนเองภายใต้ชื่อ Harutaka หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การทานซูชิที่หรูหราและทันสมัยในกรุงโตเกียว ไม่ควรพลาด Harutaka Sushi นับว่าเป็นหนึ่งในร้านซูชิที่โดดเด่นที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

บรรยากาศภายในร้านมีความเป็นส่วนตัวและอบอุ่น เพียบพร้อมไปด้วยโต๊ะเก้าอี้ที่ทำด้วยมือจากไม้ซีดาร์ญี่ปุ่นโดยไม่ต้องใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว จนคุณอดคิกไม่ได้ว่าเก้าอี้เหล่านี้ควรอยู่ในแกลเลอรีศิลปะ หรือร้านอาหารกันแน่

คอร์สโอมากาเสะ : เริ่มต้น 65,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 17:00-21:00 หยุดทุกวันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์
ที่อยู่ร้าน : 6F Tokiden building, 8-3-1 Ginza Chuo-ku, Tokyo
การเดินทาง : เดินประมาณ 8 นาที จากสถานี Ginza Station หรือ เดินประมาณ 5 นาที จาก สถานี JR Shimbashi Station

เชื่อได้ว่าใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและมีความเป็นซูชิเลิฟเวอร์ ต่างก็อยากลองสัมผัสกับรสชาติซูชิดั้งเดิมแท้ ๆ จากร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ก็ขอเชิญเลือกร้านทั้ง 5 ที่แนะนำไว้นี้ดู รับรองได้เลยว่าคุณจะลืมรสชาติอาหารญี่ปุ่นทั้งหมดที่เคยสัมผัสมา

ไม่ว่าจะเป็นความฉ่ำ หวาน สดใหม่ของวัตถุดิบ ความประณีตและเอาใจใส่ทุกขั้นตอนในการทำอาหารของเชฟและสุดท้ายความอร่อยกลมกล่อม ลงตัวในแบบต้นฉบับที่ยากจะหาที่ใดเทียบ ที่สำคัญควรโทรสอบถามกับทางร้านให้ดีก่อนทุกครั้ง เพราะบางร้านไม่รับลูกค้า Walk in เนื่องจากมีติดจองคิวล้วงหน้าเป็นเดือน ๆ ซึ่งอาจทำให้คุณพลาดที่จะลิ้มชิมรสก็เป็นได้