วิธีเดินทางจากกรุงโตเกียวไปจังหวัดกิฟุ

วิธีเดินทางจากกรุงโตเกียวไปจังหวัดกิฟุ

จังหวัดกิฟุ (Gifu-ken) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ขนาดใหญ่ติดกับจังหวัดไอจิ ชิกะ โทยามะ นากาโน่ และมิเอะ พื้นที่ส่วนใหญ่ของกิฟุเป็นภูเขาและแม่น้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในพื้นที่เป็นระยะเวลาหลายวันได้

เที่ยว กิฟุ เมืองมรดกโลก ชมวิถีชีวิตดั้งเดิม แช่น้ำพุร้อน ชมวิวหลักล้าน ปราสาทสวยงาม

สำหรับใครที่วางแผนจะมาเที่ยวจังหวัดกิฟุต้องวางแผนการเที่ยวให้ดี เพราะกิฟุเป็นจังหวัดใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอยู่ห่างไกลกันและใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน โดยเฉพาะการขึ้นไปทางตอนเหนือของจังหวัดเพื่อขึ้นกระเช้าไปสัมผัสกับวิวที่สวยงาม การเดินทางจากกรุงโตเกียวไปจังหวัดกิฟุด้วย 2 วิธี ดังนี้

  • • ทางเครื่องบิน สามารถบินตรงจากสนามบินนานาชาตินาริตะ มาลงสนามบินนานาชาติจูบุ (เซ็นโทเรีย) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที จากสนามบินนานาชาติจูบุ (เซ็นโทเรีย) ไปนาโกย่าด้วย รถไฟเมเท็สสึ ประมาณ 60 นาที
  • • ทางรถไฟ JR Tokaido Shinkansen Nozomi ลงนาโกย่า ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.40 นาที ต่อด้วย JR Tokaido Line ประมาณ 17 นาที

วันที่ 1

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองกิฟุ (Gifu City Museum of History)

สถานที่แรกที่เราจะแวะไปก็คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองกิฟุ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวน Gifu Park ถูกสร้างขึ้นสำหรับประชาชนในการเข้าชมเรียนรู้ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองกิฟุในรูปแบบ 3 มิติ ภายในยังมีการจัดแสดงวิถีชีวิตของ ‘ท่านโอดะ โนบุนากะ’ อดีตผู้ปกครองปราสาทกิฟุ สมัยเซนโคขุ นักท่องเที่ยวสามารถที่จะถ่ายรูปกับโซนชุดเกราะของทหารในสมัยโบราณได้

ที่อยู่ : 2-18-1 Omiyacho, Gifu-shi, Gifu
การเดินทาง : จาก Gifu Station นั่งรถ Gifu Bus 15 นาที ไปลง Gifu Koen Bus Stop จากนั้นเดินอีกประมาณ 2 นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-17.00 น.
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ อายุ 18 ปี ขึ้นไป 310 เยน, เด็ก 150 เยน
เว็บไซต์ : https://www.rekihaku.gifu.gifu.jp/

พิพิธภัณฑ์แมลงนาวะ (Nawa Insect Museum)

ถัดจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองกิฟุ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 – 3 นาที ท่านจะพบกับพิพิธภัณฑ์แมลงนาวะ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แมลงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สำหรับท่านใดที่สนใจแมลงไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีแมลงให้ศึกษาจากทั่วโลกมากกว่า 12,000 สายพันธุ์

ที่อยู่ : 2-18 Omiyacho, Gifu-shi, Gifu
การเดินทาง : เดินจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองกิฟุ ประมาณ 2-3 นาที
เวลาเปิดปิด : 10.00-17.00 น.
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ อายุ 18 ปี ขึ้นไป 500 เยน , เด็กที่มีอายุมากกว่า 4 ปี 400 เยน
เว็บไซต์ : https://www.japan-experience.com/all-about-japan/gifu/museums-galleries/nawa-insect

วันที่ 2

กระเช้าลอยฟ้าคินคะซัง (Kinkazan Ropeway)

ตกบ่ายเยี่ยมชมความสวยงามของเมืองกิฟุด้วยการขึ้นกระเช้าคินคะซัง เป็นกระเช้าที่จะพาคุณขึ้นไปยังยอดเขาคินคะ สามารถที่จะชมความสวยงามของเมืองกิฟุและแม่น้ำนาการะ บนภูเขาจะพบกับฝูงกระรอกป่า ซึ่งคุณสามารถให้อาหารและร่วมถ่ายรูปกับฝูงกระรอกเหล่านั้นได้ ข้างบนจะพบกับร้านของฝากและของที่ระลึกมากมาย

ที่อยู่ : 257 Senjojiki Shita, Gifu-shi, Gifu
การเดินทาง : เดินจากสวนสาธารณะเมืองกิฟุ ประมาณ 2-3 นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9:00-17.00 น.
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป ราคาไปกลับ 1,100 เยน, เด็กอายุ 4-12 ปี ราคาไปกลับ 550 เยน
เว็บไซต์ : https://www.gifucvb.or.jp/sightseeing/detail_kankou.php?eid=00003

ปราสาทกิฟุ (Gifu Castle)

ปราสาทกิฟุ (Gifu Castle)

หลังจากที่ขึ้นมาบนยอดเขาคินคะซังแล้วจะต้องไม่พลาดกับการไปเยี่ยมชมปราสาทสีขาวตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานามว่า ‘ปราสาทกิฟุ’ ว่ากันว่าเป็นป้อมปราการที่ก่อสร้างในยุคเคนนิน ( ค.ศ.1201-1204) ในสมัยเซนโกคุ ปราสาทกิฟุแห่งนี้ยังเป็นที่พักอาศัยของ ‘โดซัน ไซโตะ’ ก่อนที่ ‘ท่านลอร์ด โอดะ โนบุนากะ’ ได้บุกยึดและครอบครองปราสาทแห่งนี้ไปก่อนที่จะส่งต่อให้กับลูกชายในปี 1576 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองในปัจจุบัน

ที่อยู่ : 18, Gifu-shi, Gifu
การเดินทาง : เดินจากสถานีกระเช้าลอยฟ้าบนยอดเขา ประมาณ 8-10นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9:30-16:30 น.
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป ราคา 200 เยน, เด็กอายุ 4-16 ปี ราคา 100 เยน
เว็บไซต์ : https://www.gifucvb.or.jp/sightseeing/gifu-castle.php

สำนักงานเรือสังเกตการณ์การจับปลาด้วยนกกาน้ำ/ท่าเรือ

มื้อเย็นจะพาไปล่องเรือเพื่อรับประทานอาหารและชมวิธีการจับปลาในแม่น้ำนางาระด้วยนกกาน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีและวิถีชีวิตของชาวเมืองกิฟุมาตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 1,300 ปี โดยมีวิธีการเรียกชื่อนี้ว่า UKAI เป็นการแสดงวิธีการจับปลาด้วยนก สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เท่านั้น สำหรับการจองเรือและรับประทานอาหารบนเรือ แนะนำจองผ่านทางที่พักของโรงแรมหรือเรียวกังในเมืองกิฟุ เพราะจะสะดวกกว่า

ที่อยู่ : 18, Gifu-shi, Gifu
การเดินทาง : เดินจากสถานีกระเช้าลอยฟ้าบนยอดเขา ประมาณ 8-10นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9:30-16:30 น.
ค่าใช้จ่าย : คอร์สอาหาร ผู้ใหญ่ 3,500 เยน เด็ก 1,800 เยน
เว็บไซต์ : https://www.gifucvb.or.jp/sightseeing/ukai.php

วันที่ 3

เกโระ ออนเซ็น (Gero Onsen)

เกโระ ออนเซ็น (Gero Onsen)

เกโระออนเซ็น เกโระออนเซ็น (Gero Onsen) เป็นรีสอร์ตน้ำพุร้อนในเกโระ จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเทือกเขาฮิดะ ขึ้นชื่อได้ว่าเป็น 1 ใน 3 น้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น น้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องปริมาณแร่ธาตุที่สูง รีสอร์ตหลายแห่งยังขึ้นชื่อในด้านสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและมีออนเซ็นมากมาย ซึ่งใครได้เดินทางมาเที่ยวจังหวัดกิฟุต้องไม่พลาด มีที่พักให้เลือกทั้งในแบบโรงแรม หรือแบบเรียวกังดั้งเดิม มีทั้งแบบอ่างอาบน้ำเปิดโล่ง , อ่างอาบน้ำรวม หรือแม้แต่อ่างที่ใช้แช่เฉพาะเท้าก็มีให้บริการเช่นกัน สำหรับที่อาบน้ำกลางแจ้งจะไม่มีค่าใช้จ่าย หากแต่จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ ท่านสามารถหาที่พักในเกโระ ออนเซ็นได้ตั้งแต่สถานีเกโระไปตามแม่น้ำฮิดะ

ที่อยู่ : Gero Station
การเดินทาง : Limited Express Wide View ไปลง Gero Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
เวลาเปิด-ปิด : –
ค่าใช้จ่าย : บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง ฟรี
เว็บไซต์ : –

พิพิธภัณฑ์กระเบื้องโมเสก ทาจิมิ (Mosaic Tile Museum Tajimi)

พิพิธภัณฑ์กระเบื้องโมเสก ทาจิมิ เป็นแหล่งผลิตกระเบื้องโมเสกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตัวอาคารได้รับการออกแบบที่แปลกตาและน่าติดตามยิ่งนัก เพราะทำรูปทรงคล้ายภูเขาดินเหนียวที่มีความสูงถึง 4 ชั้น ภายในมีงานกระเบื้องโมเสกลวดลายต่าง ๆ ที่มากถึง 10,000 รายการ โดยทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นที่เมืองทาจิมิแห่งนี้ มีส่วนที่ใช้แสดงพื้นที่งานตัวอย่างไม่ว่าจะเป็นอ่างน้ำ , ห้องน้ำ , ห้องครัว ซึ่งแต่ละห้องจะได้รับการออกแบบและตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกที่มีความสวยงาม

ที่อยู่ : 2082-5 Kasaharacho,Tajimi City, Gigu 507-0901
การเดินทาง : จากสถานี Nagoya โดยสารรถไฟ JR Chuo Main line ลงสถานี Tajimi ใช้เวลา 35 นาที ต่อด้วยรถโดยสารบัสที่อาคารฝั่งใต้ หมายเลข 2 ลงป้าย Mosaic Tile Museum ใช้เวลา 20 นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 17.00 น.
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้า 310 เยน ค่ากิจกรรม 500 เยน
เว็บไซต์ : www.mosaictile-museum.jp

วันที่ 4

หมู่บ้านชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)

ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงจากบ้านกัสโช-ซึคุริ ซึ่งเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีหลังคามุงจากสูงชัน หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกด้วย ชิราคาวาโกะตั้งอยู่ในเทือกเขาฮิดะ ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร (190 ไมล์) หมู่บ้านมีประชากรประมาณ 1,300 คน

บ้านกัสโช-สึคุริในชิราคาวาโกะถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 และ 18 เป็นบ้านที่ถูกสร้างจากไม้และมุงด้วยใบจาก มีหลังคาสูงชันที่ออกแบบมาให้ทนต่อหิมะเมื่อเวลาตกหนัก โดยทั่วไปบ้านจะมีความสูง 2 ชั้น มีห้องนั่งเล่นอยู่ที่ชั้น 1 และพื้นที่เก็บของอยู่ที่ชั้น 2

บ้านกัสโชสึคุริในชิราคาวาโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หมู่บ้านนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่หลังคาบ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ นักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพของหมู่บ้านที่สวยงามที่สุด

ที่อยู่ : Shirakawa, Ono-cho, Ibi-gun, Gifu
การเดินทาง : จากสถานี ทาคายามะ โดยรถไฟเจอาร์ถึงโนฮิ และต่อด้วยรถบัสสาย โฮคุริคุ ไปประมาณ 60 นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 17.00 น. (บ้านวาดะ)
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่: 300 เยน เด็ก: 150 เยน (บ้านวาดะ)
เว็บไซต์ : https://visitgifu.com/th/see-do/unesco-world-heritage-site-shirakawa-go/

ประกันการเดินทางตรีเพชรอินชัวรันส์

เดินทางกลับประเทศไทย

สำหรับจังหวัดกิฟุยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ท่านได้ชื่นชมและสามารถมาเที่ยวได้แทบทุกฤดู เพราะแต่ละฤดูมีความสวยงามที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีเทศกาลต่าง ๆ ให้ได้รับชมในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น เพื่อไม่ให้พลาดการชมเทศกาลและการแสดงวิถีชีวิตที่สวยงามของชาวญี่ปุ่น อย่าลืมเช็คเวลาและการเดินทางให้ดี เพราะบางสถานที่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางนาน เว้นเสียแต่ว่าจะเน้นการท่องเที่ยวที่จังหวัดกิฟุเป็นหลัก ซึ่งก็จะใช้เวลาไม่ต่ำว่า 3- 4 วันอย่างแน่นอน

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ