บัตรเครดิต Visa กับ MasterCard เลือกใช้แบบไหนดี
“บัตรเครดิต” แม้ว่าจะมีผู้ให้บริการบัตรเครดิตให้เลือกสมัครหลายราย แต่บัตรที่ได้รับความนิยมสองประเภทในปัจจุบันคือ บัตรเครดิตวีซ่า (Visa) และบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (MasterCard) ซึ่งทั้งสองใบมาจากเครือข่ายการชำระเงินของผู้ให้บริการที่ต่างกัน คำถามสำคัญคือบัตรทั้งสองประเภทต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้บัตรประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์? นี่คือสิ่งที่ทุกคนกำลังจะได้พบคำตอบในวันนี้ครับ!
บัตรเครดิตวีซ่า (Visa) คืออะไร?
บัตรเครดิตวีซ่า เป็นบัตรเครดิตที่ออกโดย บริษัท วีซ่า อิงค์ จากสหรัฐอเมริกา ได้รับการยอมรับว่าเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีร้านค้าทั่วโลกซึ่งยอมรับการชำระเงินด้วยบัตรวีซ่ามากกว่า 400 ล้านแห่ง และถ้าพูดถึงการใช้บัตรวีซ่าในประเทศไทย นี่คือบัตรที่สถาบันการเงินมีให้บริการมากที่สุด และหากมองถึงคนที่ต้องการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต บัตรเดบิตวีซ่าก็คือบัตรพื้นฐานที่ทุกธนาคารในประเทศไทยมีให้บริการ
สำหรับจุดเด่นสำคัญของบัตรวีซ่าคือได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยมีการยอมรับมากกว่า 200 ประเทศ ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรเพื่อซื้อสินค้าและบริการได้ในเกือบทุกประเทศ พูดแบบให้เข้าใจง่ายคือในทุกที่ที่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตมากกว่าหนึ่งประเภท จะต้องมีบัตรวีซ่าเป็นหนึ่งในนั้น
อีกจุดเด่นของบัตรวีซ่าคือโปรแกรมสิทธิพิเศษ วีซ่ามีโปรแกรมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นมากมาย เช่น โปรแกรมสะสมคะแนนแลกของรางวัล , สะสมไมล์เดินทางเพื่อเป็นส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินและใช้บริการห้องรับรองในสนามบินทั่วโลก , โปรโมชั่นการช้อปปิ้ง , ส่วนลดร้านอาหาร ฯลฯ โดยสิทธิประโยชน์จะขึ้นกับระดับสมาชิกของบัตรและเงื่อนไขของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร
บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (MasterCard) คืออะไร?
บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดเป็นบัตรเครดิตที่ออกโดย บริษัท มาสเตอร์การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกับบัตรวีซ่า และถือเป็นอีกหนึ่งบัตรที่มีการยอมรับทั่วโลก รวมถึงมาพร้อมกับสิทธิพิเศษหลากหลายเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วร้านค้าที่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เมื่อมีสัญลักษณ์วีซ่าก็จะมีสัญลักษณ์มาสเตอร์การ์ดด้วย
ทำบัตรเครดิต Visa หรือ Mastercard ดีกว่ากัน?
คำถามข้อนี้ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะทั้งสองบัตรมีข้อดีและข้อที่ต้องทำความเข้าใจแทบจะไม่ต่างกัน หากพูดถึงในแง่การยอมรับ นี่คือผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่สองรายสำคัญของโลกซึ่งจำนวนประเทศและร้านค้าที่รองรับแทบจะไม่ต่างกัน บัตรวีซ่าอาจมีพื้นที่รองรับมากกว่าเพราะเปิดให้บริการมานานกว่า แต่โดยรวมถือว่าไม่ต่างกันมาก
นอกจากนี้ในแง่ความปลอดภัยของการทำธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ก็แทบจะไม่ต่างกัน แน่นอนว่ารายละเอียดสิทธิประโยชน์ต่างกันตามที่ผู้ให้บริการเลือกมานำเสนอ แต่หากสรุปแบบเข้าใจง่าย วีซ่ามีสิทธิประโยชน์อะไร มาสเตอร์การ์ดก็มีสิทธิประโยชน์นั้น โดยต่างกันที่รายละเอียดปลีกย่อย เช่น บางร้านอาจให้ส่วนลดบัตรวีซ่ามากกว่า และหากมองในแง่ค่าธรรมเนียมรายปี ทั้งสองบัตรก็มีเหมือนกัน ทั้งยังมีบางบัตรที่ธนาคารมีโปรโมชั่นให้เปิดได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้หลายคนคงสงสัยว่าจะเลือกบัตรใบไหนดีให้เหมาะกับตัวเอง ซึ่งเราสรุปเทคนิคมาให้ 3 ข้อ ดังนี้
1. หากใช้ในไทยเป็นหลัก บัตรวีซ่าถือว่าเหมาะกว่า เพราะมีตัวเลือกในการสมัครมากกว่า ได้รับความนิยมในไทยมากกว่า ทำให้สิทธิประโยชน์มีมากกว่าบัตรมาสเตอร์การ์ดตามไปด้วย
2. หากเน้นใช้ในต่างประเทศ สิ่งที่คุณทำได้คือหาข้อมูลความนิยมของประเทศนั้นว่าผู้คนนิยมใช้บัตรประเภทไหนมากกว่ากัน สังเกตได้จากส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศนั้น นอกจากนี้ยังต้องดูอัตราแลกเปลี่ยนด้วยว่าบัตรไหนให้เรตอัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มกว่ากัน
3. ถ้ารู้สึกว่าสองข้อแรกไม่มีอะไรต่างกัน ให้เทียบจากค่าธรรมเนียมรายปี รวมถึงโปรโมชั่นตอนสมัครบัตรว่าได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
ปิดท้ายวันนี้ การเลือกสมัครบัตรทั้งสองประเภทไม่ต่างกันมากนักในแง่ของการยอมรับทั่วโลก อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสมัครบัตรใดบัตรหนึ่ง … ทุกวันนี้การสมัครบัตรเครดิตไม่ได้ยุ่งยากเหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว หากคุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายให้ไม่เกิดภาระหนี้สินได้ การใช้บัตรเครดิตย่อมให้ประโยชน์มากกว่าการชำระด้วยเงินสด
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ