ทำธุรกิจส่วนตัว ควรมีประกันชีวิตแบบไหน

ทำธุรกิจส่วนตัว ควรมีประกันชีวิตแบบไหน

ปัจจุบันการทำธุรกิจส่วนตัวเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ เพราะนอกจากมีโอกาสรวยเร็วกว่าพนักงานกินเงินเดือนแล้ว ยังมีอิสระในการใช้ชีวิตมากกว่าด้วย ส่วนข้อเสียของอาชีพนี้ คือ ‘การบริหารความเสี่ยง’ ด้วยเหตุนี้ประกันชีวิตจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม ซึ่งควรเลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี บทความนี้มีคำตอบมาฝาก

ประโยชน์ของการทำประกันชีวิตสำหรับเจ้าของธุรกิจ

หากถามว่าการทำประกันชีวิตมีประโยชน์อย่างไร คนส่วนใหญ่มักตอบว่าเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงด้านการเงินของครอบครัว เพราะถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นกับผู้เอาประกันขึ้น คนข้างหลังจะได้รับเงินประกันก้อนใหญ่ไว้ใช้หลังจากผู้เอาประกันชีวิตจากไป อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว ประโยชน์ของประกันชีวิตไม่ได้มีแค่นั้น แต่ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีก นั่นคือ

ประโยชน์ของการทำประกันชีวิตสำหรับเจ้าของธุรกิจ

1. ใช้ลดหย่อนภาษี

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจ เพราะยิ่งมีรายได้มากก็ยิ่งต้องเสียภาษีประจำปีมากตามไปด้วย แต่หากทำประกันชีวิตที่มีระยะเวลาเอาประกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปไว้ สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ในกรณีที่เป็นประกันชีวิตของตัวเองสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ขณะที่หากเป็นประกันชีวิตของคู่สมรสสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 10,000 บาท สำหรับประกันชีวิตบำนาญจะได้ลดหย่อนได้สูงสุดถึง 200,000 บาท ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 15% ของรายได้

2. สิทธิ์กู้ยืมเงิน

หากต้องการเงินหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ทางเลือกอันดับหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจทำคือ ‘การยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน’ แต่ถ้าทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินจากบริษัทประกันได้ เรียกว่าการกู้เงินตามกรมธรรม์ ซึ่งหลังจากใช้ประกันชีวิตกู้เงินแล้ว ผู้เอาประกันยังคงได้รับการคุ้มครองจากประกันเช่นเดิม

วิธีใช้ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองกิจการและหุ้นส่วน

วิธีใช้ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองกิจการและหุ้นส่วน

นอกจากประกันชีวิตส่วนบุคคลแล้ว ยังมีประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ นั่นคือ ประกันคีย์แมน หรือ Keyman Insurance ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้บริษัททำให้กับบุคคลสำคัญของบริษัท อย่าง เจ้าของบริษัท , กรรมการบริหาร หรือผู้ถือหุ้น ซึ่งมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

เช่นเดียวกับประกันชีวิตประเภทอื่น ประกันคีย์แมนเองให้ความคุ้มครองผู้เอาประกัน คือ เจ้าของบริษัท , กรรมการบริหาร หรือผู้ถือหุ้นที่บริษัททำประกันชีวิตให้ ซึ่งหากเกิดเหตุไม่คาดฝันกับผู้เอาประกัน คนในครอบครัวจะได้รับเงินก้อนใหญ่สำหรับใช้จ่ายและจัดการแทนผู้เอาประกันโดยไม่เดือดร้อน

2. ใช้ในการลดหย่อนภาษีของบริษัท

เนื่องจากค่าเบี้ยประกันคีย์แมนถูกจัดเป็นค่าใช้จ่ายได้เต็มจำนวน 100% เพราะฉะนั้นบริษัทจึงสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อประกันไปลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นบริษัทยังเป็นผู้จ่ายภาษีส่วนบุคคลในส่วนนี้ให้กับผู้เอาประกัน โดยสามารถนำไปรวมกับค่าใช้จ่ายของบริษัทได้เช่นกัน

3. ผลตอบแทนจากการทำประกัน

กรณีที่บริษัทเลือกทำประกันคีย์แมนที่มีผลตอบแทน ผู้เอาประกันจะได้รับผลตอบแทนจากประกันเช่นเดียวกับการทำประกันชีวิตประเภทอื่น ผลตอบแทนที่ได้รับไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเหมือนกับการได้รับผลประกอบจากบริษัท

วิธีเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมสำหรับเจ้าของธุรกิจครอบครัว

วิธีเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมสำหรับเจ้าของธุรกิจครอบครัว

หากเป็นธุรกิจใหญ่ที่มีมูลค่าสูง ประกันคีย์แมนถือว่าเป็นรูปแบบประกันชีวิตที่ตอบโจทย์มากที่สุด แต่สำหรับธุรกิจครอบครัวที่มีขนาดเล็กกว่า การเลือกประกันชีวิตทั่ว ๆ ไปอย่างประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา , ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ , ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ เหมาะสมกว่า โดยมีวิธีเลือกดังนี้

– เลือกประเภทจากความต้องการ

สำหรับเรื่องที่หยิบมาพิจารณา คือ ‘รูปแบบความคุ้มครองที่ต้องการ’ เพราะอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประกันชีวิตมีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ซี่งหากมุ่งเน้นไปที่การออมเงินเพื่อรับผลประโยชน์เมื่อครบสัญญา แนะนำให้เลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ แต่ในกรณีที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มครองในระยะยาว ประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่ให้ความคุ้มครองยาวถึงอายุ 90 ขึ้นไป ถือว่าเหมาะสม

– ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน

เพราะประกันชีวิตเป็นรูปแบบประกันที่ต้องจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันระยะยาวหลายปี ซึ่งถึงแม้ว่าปัจจุบันสามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน ไม่ต้องจ่ายก้อนใหญ่เป็นรายปีแบบเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก่อนตัดสินใจทำประกันควรพิจารณาสภาพคล่องทางการเงินของตัวเอง หากมีภาระค่าใช้จ่ายสูง หรือธุรกิจยังไม่มั่นคง อาจเลือกประกันชีวิตที่ค่าเบี้ยไม่สูงมากเพื่อลดโอกาสเกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน

จะเห็นได้ว่า ‘ประกันชีวิต’ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเจ้าของธุรกิจทุกคน เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้ทั้งตัวเองและคนข้างหลังอุ่นใจขึ้นแล้ว ยังมาพร้อมสิทธิพิเศษด้านการเงินอีกด้วย

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ