ความสำคัญของการมีประกันสำหรับคนในวัยทำงานเพื่อปกป้องรายได้และสุขภาพ
“วัยทำงาน” ช่วงจังหวะชีวิตของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีอิสรภาพทางการเงินเพื่อที่จะทำตามความฝัน การวางแผนอนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญ และสามารถลงมือทำได้ทันทีโดยอาศัยเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่เรียกว่า ‘ประกันชีวิต’
ประกันที่คนทำงานควรมีเพื่อปกป้องรายได้
ไม่ว่าจะอาชีพใดก็ตาม ควรทำ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งมักจะมีการชดเชยรายได้อันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุที่ส่งผลให้ต้องพักงาน ขาดรายได้ ไม่ว่าจะต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหรือไม่ก็ตาม ในขณะเดียวกันขอแนะนำให้ทำ ‘สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายได้’ สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว อาชีพอิสระ หรือค้าขาย เพราะการขาดงานไปหนึ่งวันนั่นหมายถึงรายได้ที่ต้องสูญเสียไปเช่นกัน ซึ่งตัวสัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายได้จะจ่ายเงินรายวันเมื่อผู้เอาประกันเจ็บป่วยต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลรวมทั้งกรณีการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับด้วย โดยวงเงินชดเชยรายวันนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นกับรายละเอียดของเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้
ประกันสุขภาพที่เหมาะกับคนวัยทำงานที่มีภาระหนี้
เมื่อมีรายได้เป็นของตนเองก็ถึงเวลาสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อรองรับการสร้างครอบครัวในอนาคต เป็นเรื่องธรรมดาที่คนวัยนี้จะมีภาระหนี้สินซึ่งเกิดจากการซื้อบ้าน ซื้อรถ นอกจาก ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แล้ว ควรมี ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ เป็นรูปแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่พร้อมช่วยรับความเสี่ยงในการชำระหนี้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับผู้กู้ หมดห่วงได้ว่าหนี้สินเหล่านั้นจะไม่เป็นภาระกับคนข้างหลัง
วิธีเลือกประกันที่เหมาะสมกับช่วงอายุ รายได้ และความต้องการ
– ช่วงอายุ 20 ปี – นักศึกษาจบใหม่วัยเริ่มต้นทำงาน
ระยะแรกของการทำงาน เงินเดือนที่ได้รับอาจยังไม่มากนักจึงควรเลือกเบี้ยประกันที่ สามารถจ่ายไหว โดยทั่วไปจะไม่เกิน 10% ของรายได้รวมต่อปี
ประกันแบบสะสมทรัพย์ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทำงานที่ต้องการมีเงินเก็บเนื่องจากเป็นกรมธรรม์ที่เน้นการออมพร้อมให้ความคุ้มครองดูแล สามารถเลือกจ่ายค่าเบี้ยประกัน และระยะเวลาในการคุ้มครองได้ตามต้องการ (กรณีที่เลือกรับความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปสามารถนำใช้ลดหย่อนภาษีได้) เมื่อครบระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ก็จะได้รับผลตอบแทนคืนมาซึ่งมีทั้งการจ่ายคืนเป็นเงินก้อนในครั้งเดียวและเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญา
ประกันสุขภาพ การเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ ประกันสุขภาพจะช่วยคุ้มครองดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งยังอาจมีการชดเชยรายได้ในบางกรมธรรม์ด้วย การทำประกันสุขภาพในช่วงวัยนี้มีข้อดีคือเบี้ยประกันไม่สูงเนื่องจากอายุยังน้อยสุขภาพร่างกายยังแข็งแรงจึงมีความเสี่ยงต่ำ เบี้ยกรมธรรม์จึงต่ำด้วย
– ช่วงอายุ 30 ปี – ทำงานได้สักระยะ มีภาระความผิดชอบ เข้าสู่โหมดสร้างครอบครัว
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ สร้างความอุ่นใจด้วยหลักที่มั่นคงสำหรับครอบครัว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ชีวิตคนข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก โดยประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองตลอดชีวิตของผู้เอาประกัน ซึ่งบริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ทั้งกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิต และผู้เอาประกันอยู่ครบสัญญา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจกล่าวคือ ทุนประกันสูง เบี้ยประกันต่ำ และสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้
ประกันสุขภาพ / ประกันโรคร้ายแรง สุขภาพยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญ หากสวัสดิการค่ารักษา พยาบาลไม่ครอบคลุม อย่าลืมทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถทำพ่วงไปกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพได้
ประกันสุขภาพ / ประกันอุบัติเหตุ สำหรับบุตร จำเป็นมากสำหรับคนที่มีลูก เนื่องจากเด็กมีความเสี่ยงสูงทั้งต่อการเจ็บป่วย และการเกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจึงสูงตามไปด้วย ประกันทั้ง 2 ประเภทนี้สามารถดูแลคุ้มครองช่วยให้อุ่นใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของลูกโดยไม่กระทบต่อเงินเก็บของครอบครัว
– ช่วงอายุ 40-50 ปี – ขยับเข้าใกล้วัยเกษียณ ต้องเตรียมแผนรับมือวัยชรา
ประกันชีวิตแบบบำนาญ ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณมีเงินใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินคืนตามกรมธรรม์เมื่อผู้ทำประกันมีอายุครบกำหนด (อายุ 55 ปี หรือ 60 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์)
อย่างไรก็ตามก่อนทำประกันชีวิต ควรศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์แต่ละฉบับให้รอบคอบว่าตอบโจทย์ความต้องการได้มากน้อยแค่ไหน เปรียบเทียบผลประโยชน์ที่จะรับว่าคุ้มค่าหรือไม่ ตลอดจนความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันเป็นอย่างไร แล้วจึงค่อยเลือกกรมธรรม์ที่คิดว่าเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ