9 ที่เที่ยว ทาคายาม่า Takayama สัมผัสทาคายาม่าจุดเช็กอินยอดนิยม
หากเมืองไทยเรามีเชียงคานที่อนุรักษ์บ้านไม้แบบโบราณ ที่ญี่ปุ่นก็จะมีทาคายาม่า เสมือนเมืองที่โดนหยุดเวลาเอาไว้ในอดีต เมืองทาคายาม่า ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ เป็นเมืองเก่าแก่ก่อนที่จะมีการร่วมเป็นประเทศญี่ปุ่น โดยพื้นที่นี้เดิมที่เรียกว่า ‘ฮิดะ’ จึงทำให้คนในท้องที่แต่โบราณเรียกที่แห่งนี้ว่า ‘ฮิดะทาคายาม่า’ จนกระทั่งได้รับวัฒนธรรมเกียวโตผสมผสานกับยุคเอโดะ เหล่านี้คือเรื่องราวผ่านคำบอกเล่าประวัติจากคนท้องถิ่นจนกลายมาเป็นทาคายาม่าในปัจจุบัน ไฮไลท์ของที่นี่คือมีแม่น้ำเล็ก ๆ ที่มีความใสมาก ๆ สายน้ำทอดผ่านตัวเมืองพร้อมกับมีปลาคาร์ปแหวกว่ายอยู่ในน้ำด้วย ซึ่งใครที่เลี้ยงปลาคาร์ปจะทราบดีว่าหากน้ำไม่สะอาดบริสุทธิ์จริง ๆ ปลาคาร์ปจะไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ นี่ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นนั้นเป็นเมืองที่สะอาดโดยแท้ วันนี้จะพาไปรู้จักกับ 9 ที่เที่ยวยอดนิยมในทาคายาม่า หากคุณมีทริปไปทาคาย่าม่า ต้องห้ามพลาดนะครับ
ทาคายาม่า (Takayama) เที่ยวช่วงเดือนไหนดี
ทาคายาม่ามีเสน่ห์ในทุกฤดูกาล แต่ช่วงที่แนะนำให้มาเที่ยวคือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองเต็มไปด้วยดอกซากุระและรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงาม หากชอบหิมะ ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) จะให้บรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก อีกทั้งยังมีน้ำพุร้อนให้ผ่อนคลายตามธรรมชาติ และต่อไปนี้คือ 9 สถานที่เที่ยวในทาคายาม่า ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็กอิน
1.เที่ยวเมืองเก่าทาคายาม่า ซันมาจิ (Takayama old town)
สำหรับเมืองเก่าทาคาย่ามา ต้องนี่เลย Takayama Old Town ที่ตั้งอยู่บนถนนซันมาจิ (Sanmachi Street) ซึ่งบ้านเรือน ร้านค้าบางแห่งยังคงอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่สมัยเอโดะ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและที่พักสไตล์เรียวกัง ไฮไลท์ของถนนซันมาจิที่เชื่อได้ว่าต้องถูกใจบรรดาสุภาพบุรุษสายดื่มสายแฮงค์เลยก็คือโรงงานผลิตเหล้าสาเกโบราณ (Old Sake Breweries) ซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของที่นี่ นักท่องเที่ยวและคนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมและซื้อเหล้าสาเกนี้กลับบ้านได้ นอกจากสาเกที่เป็นของขึ้นชื่อแล้วยังมีขนมเซมเบ้ โคร็อกเกะ และเนื้อฮิดะย่าง (เนื้อวากิว) ให้ได้ลิ้มลอง ที่ย่านเมืองเก่านี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ฮิดะมินโซคุโคโคคัง (Hida Minzoku Kokokan/Hida Archaeology Museum) , พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านฮิราตะคินเอนคัง (Hirata Kinenkan) , พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะทาคายามะ ให้นักท่องเที่ยวได้อิ่มเอมกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และสวยของทาคายามะอย่างเต็มคราบ
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ Meitetsu จากสนามบินเซ็นแทรร์ถึงกิฟุ แล้วต่อรถบัสไปทาคายาม่า ประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที ซันมะจิอยู่ทางทิศตะวันออกของสถานี JR ทาคายาม่า ใช้เวลาเดินประมาณ 10-15 นาที
ที่ตั้ง : Kamisannomachi, Takayama old town, Gifu, Japan
เว็บไซต์ : http://giftgift.sakura.ne.jp/03miru/sanmachi.html
2.สำนักงานว่าการ ทาคายาม่า จินยะ (Takayama Jinya) ยุคเอโดะ
เมื่อได้มาเยือนเมืองเก่าอย่างทาคายาม่าแล้วจะต้องไม่พลาดกับการเข้าเยี่ยมชม ‘สำนักงานว่าการ ทาคายาม่า จินยะ’ (Takayama Jinya) เป็นโบราณสถานสำคัญแห่งชาติ เดิมเป็นที่พำนักของเจ้าเมืองคานาโมริแห่งปราสาททาคายาม่า แต่หลังจากยุคการปกครองของตระกูลคานาโมริสิ้นสุดลง โชกุนโทคุงาวะเข้ามาดูแลโดยตรงและใช้สถานที่นี้เป็นสำนักงานปกครองเมืองฮิดะ โดย ‘สำนักงานว่าการทาคายาม่า จินยะ’ เป็นสถานที่ประกาศคำสั่งราชการและจัดเก็บภาษีในสมัยนั้น
ในยุคเมจิ ทาคายาม่า จินยะ ถูกเปลี่ยนมาเป็นสำนักงานประจำพื้นที่ของจังหวัดและเขต เป็นอาคารสำนักงานโบราณแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น ที่นี่ถูกใช้งานจนถึงปี 1969 และปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนได้เข้าชม ภายในประกอบด้วยห้องเสื่อทาทามิที่ถูกดูแลอย่างดี ซึ่งเดิมเป็นสำนักงาน ห้องประชุม ห้องพักแขก และห้องพักผู้อยู่อาศัย พร้อมห้องสอบสวนที่ยังคงมีเสน่ห์แบบโบราณ ข้างอาคารหลักมีโกดังขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในทศวรรษ 1600 ซึ่งเป็นคลังข้าวแบบดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ในอดีตของผู้นำท้องถิ่น ทั้งเอกสารทางราชการ แผนที่ภูมิภาคฮิดะ และผังเมืองโบราณ
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากสถานี JR ทาคายาม่า
ที่ตั้ง : 1-5 Hachikenmachi, Takayama City
เว็บไซต์ : https://jinya.gifu.jp/en/
3.สะพานนาคาบาชิ (Nakabashi Bridge) จุดถ่ายรูปห้ามพลาด
สะพานแดงแห่งทาคายาม่า หรือ สะพานนาคาบาชิ ที่ใครได้มาเยือนจะต้องมาพลาดกับจุดถ่ายรูปยอดนิยมแห่งนี้ สะพานนาคาบาชิ (Nakabashi Bridge) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองทาคายาม่า สะพานนี้โดดเด่นด้วยสีแดงสดซึ่งสร้างความสะดุดตาต่อผู้พบเห็นทั่วไป โดยสะพานนาคาบาชิเป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำที่เชื่อมระหว่างเมืองทาคายาม่าและหมู่บ้านโบราณ บรรยากาศรอบ ๆ ยังคงเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม สะพานนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความสำคัญต่อการสัญจรของชาวบ้านละแวกนี้ อีกทั้งยังมีความสวยงามโดยเฉพาะช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน เมื่อดอกซากุระบานสะพรั่งรอบสะพาน กลายเป็นจุดชมดอกไม้ยอดฮิตทั้งกลางวันและกลางคืน
นอกจากนี้ ในช่วงกลางคืนสะพานนาคาบาชิยังมีการประดับไฟหลากสีบนต้นซากุระและสะพาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงดงามในบรรยากาศโรแมนติกได้ตลอดทั้งคืน ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทิวทัศน์บริเวณสะพานจะรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีสันสดใส เป็นภาพที่สวยงามไม่แพ้ฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งสะพานนาคาบาชิยังเป็นเส้นทางผ่านของขบวนแห่ในเทศกาลทาคายาม่า มัทสุริ ซึ่งเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนทาคายาม่า
การเดินทาง : เดินประมาณ 10- 15 นาทีจากสถานี JR ทาคายาม่า
ที่ตั้ง : 1Honcho, Takayama-shi, Gifu 5060847, Japan
เว็บไซต์ : https://www.kankou-gifu.jp/spot/detail_3381.html
4.ไหว้ขอพร ศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังกุ (Sakurayama Hachimangu Shrine)
ศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังกุ (Sakurayama Hachimangu Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญและประวัติศาสตร์ยาวนาน ตำนานเล่าว่าเจ้าชาย Naniwa-neko Takefurukuma no Mikoto ได้สวดอธิษฐานขอชัยชนะ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เมื่อได้รับมอบหมายให้ปราบสัตว์ประหลาดที่คุกคามพื้นที่ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 1683 ด้วยความกรุณาจากเจ้าเมืองท้องถิ่นเพื่อตั้งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองและอุทิศให้เทพเจ้าผู้ปกป้องพื้นที่
ศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังกุยังเป็นศูนย์กลางของเทศกาลทาคายามะมัตสึริที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจัดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลทาคายามะมัตสึริได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นและยังได้รับการจัดให้เป็นมรดกวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญระดับชาติอีกด้วย ไฮไลท์ของเทศกาลคือขบวนแห่ที่สวยงาม ซึ่งประกอบด้วย ‘ยะไต’ หรือรถแห่ที่ตกแต่งอย่างอลังการ สร้างโดยช่างฝีมือในท้องถิ่น บางส่วนของรถแห่ที่ใช้ในขบวนนี้ยังจัดแสดงในห้องนิทรรศการภายในบริเวณศาลเจ้า เทศกาลนี้เป็นงานใหญ่ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศและความภาคภูมิใจในฝีมือของช่างฝีมือท้องถิ่นของฮิดะผ่านการออกแบบรถแห่ที่งดงามและประณีต
การเดินทาง : ห่างจากสถานีทาคายามะ 1.3 กม. เดินประมาณ 20 นาที
ที่ตั้ง : 78 Sakura-machi,Takayama City Gifu Japan
เว็บไซต์ : http://www.hidahachimangu.jp/english/
5.เที่ยวชม หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนโอคุฮิดะ (Okuhida Hot Springs)
หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนโอคุฮิดะ (Okuhida Hot Springs) แหล่งรวมออนเซ็นที่มีชื่อเสียง โดดเด่นด้วยบรรยากาศโรเท็มบุโระ หรืออ่างอาบน้ำกลางแจ้ง ที่สามารถชมวิวเทือกเขาแอลป์ตอนเหนืออันงดงามของญี่ปุ่น หมู่บ้านออนเซ็นในโอคุฮิดะประกอบด้วย 5 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีลักษณะและคุณสมบัติของน้ำพุร้อนเฉพาะตัวจากแหล่งธรรมชาติต่างๆ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
1.ฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในโอคุฮิดะ ค้นพบตั้งแต่สมัยทศวรรษ 1560 และมีชื่อเสียงในการรักษาโรคประสาทและโรคผิวหนัง เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในภูมิภาค โดดเด่นด้วยเรียวกังหลายขนาดตั้งแต่แบบครอบครัวไปจนถึงอาคารใหญ่
2.ชิน-ฮิรายุออนเซ็น (Shin-Hirayu Onsen) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำทาคาฮาระและเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ใหญ่เป็นอันดับสอง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติรอบเขายาเกดาเกะ (Yakedake)
3.ชิน-โฮทากะออนเซ็น (Shin-Hotaka Onsen) อยู่ใกล้ตีนเขาโฮตากะ (Hotaka Mountains) ซึ่งเป็นยอดเขาสูงอันดับสามของญี่ปุ่น มีห้องอาบน้ำที่สามารถชมวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์ได้อย่างสวยงาม
4.ฟุคุจิออนเซ็น (Fukuji Onsen) ก่อตั้งเมื่อ 40 ปีที่แล้ว แม้จะใหม่กว่าหมู่บ้านอื่น แต่ยังคงบรรยากาศเรียวกังสไตล์ดั้งเดิมที่ทำจากไม้ ให้บรรยากาศแบบบ้านไร่เก่าๆ
5.โทชิโอะออนเซ็น (Tochio Onsen) เป็นที่พักมินชูกุเล็กๆ ที่เน้นบริการเฉพาะแขกที่เข้าพัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักแบบเรียบง่ายและประหยัด
การเดินทาง : จากสถานี JR ทาคายามะ ใช้เวลาเดินทาง 60 นาทีด้วยรถบัสโนฮิที่มุ่งหน้าไปยังชินโฮตากะออนเซ็น
ที่ตั้ง : Okuhida Onsen-go, Takayama City, Gifu
เว็บไซต์ : https://www.okuhida.or.jp/en/
6.ชมวิถี ตลาดเช้ามิยากาวะ (Miyagawa morning market)
ตลาดเช้ามิยากาวะ (Miyagawa Morning Market) เป็นหนึ่งในตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในทาคายามะ ทั้งยังเป็นจุดสำคัญของชุมชนท้องถิ่นด้วย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิยากาวะ ตลาดทอดยาวระยะทางประมาณ 350 เมตร เริ่มจากสะพานคาจิบาชิ (Kaji bashi Bridge) ไปถึงสะพานยาโยอิบาชิ (Yayoi bashi Bridge) โดยมีร้านค้าและแผงลอยกว่า 60 ร้านเรียงรายอยู่ ทั้งสองข้างของแม่น้ำจะเต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายประเภทวางจำหน่าย เช่น ผักสด , ผลไม้ , ผักดอง , เครื่องเทศ รวมถึงขนมและงานฝีมือสไตล์ญี่ปุ่น บางร้านยังจำหน่ายของที่ระลึก เช่น ตะเกียบและตุ๊กตาซารุโบโบะ (sarubobo dolls) ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาคายามะ
นอกจากตลาดมิยากาวะแล้ว ยังมีตลาดอีกแห่งที่ทาคายามะจินยะ ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี ต้นกำเนิดของตลาดจินยะมาเอะ (Jinya-mae market) มาจากการที่เกษตรกรในท้องถิ่นนำใบหม่อนมาแลกเปลี่ยนค้าขาย ปัจจุบันยังคงอนุญาตให้เกษตรกรในท้องถิ่นเป็นผู้เปิดแผงขายของ โดยมีสินค้าหลักเป็นผักใบเขียว อาหารแห้ง และผักดองหลากหลายชนิด ซึ่งผู้ขายยินดีให้คำแนะนำในการรับประทานและการถนอมอาหารแบบโฮมเมด ตลาดทั้งสองแห่งเปิดบริการแต่ช่วงเช้าตรู่เวลาประมาณ 06.00 น. จนถึงประมาณเที่ยง
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากสถานี JR ทาคายามะไปยังตลาดเช้ามิยากาวะ
ที่ตั้ง : Shimosannomachi, Takayama City, Gifu
เว็บไซต์ : https://www.asaichi.net/
7.ลิ้มรสชาติ เนื้อฮิดะ เนื้อยอดนิยมของคนญี่ปุ่น
เนื้อฮิดะเป็นเนื้อวากิวชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการเลี้ยงวัวสายพันธุ์ Japanese Black ในจังหวัดกิฟุ โดยใช้เวลาเลี้ยงดูมากกว่า 14 เดือน ลักษณะเด่นของเนื้อฮิดะคือความละเอียดของกล้ามเนื้อและชั้นไขมันแทรกในเนื้อ ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นผลจากสภาพแวดล้อมอันบริสุทธิ์ของกิฟุที่มีอากาศสดชื่นและน้ำที่สะอาด ทำให้เนื้อมีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น
ร้านที่มีชื่อเสียงในการเสิร์ฟเนื้อฮิดะ ได้แก่ ร้าน Yamatake-Shoten ที่ให้คุณได้เลือกชิ้นเนื้อที่ต้องการ แล้วปรุงด้วยตนเองบนเตาถ่านเล็ก ๆ เมื่อถึงโต๊ะบริกรจะนำเนื้อที่เลือกมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมซอสหลากหลายชนิดไว้ให้เสร็จสรรพ หลังจากรอคอยไม่นาน คุณจะได้สัมผัสรสชาติของเนื้อที่แทบจะละลายในปากผสานกับรสชาติเข้มข้นของซอสต่าง ๆ ทำให้เนื้อฮิดะเป็นอาหารเลิศรสที่ยากจะลืม หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนทาคายามะ อย่าพลาดที่จะลองเนื้อฮิดะสักครั้งในชีวิต
8.แวะร้านซื้อตุ๊กตา ซารุโบโบะ (Sarubobo)
ทาคายามะ มีสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่นและความเจริญรุ่งเรืองที่รู้จักกันดี นั่นคือ ‘ตุ๊กตาซารุโบโบะ’ ซึ่งมีที่มาจากภูมิภาคกิฟุตอนเหนือและเป็นตัวแทนของความหวังและความปรารถนาดีจากแม่และย่าให้กับลูกหลานเพื่อความสุขและความเป็นสิริมงคล ชื่อ ‘ซารุโบโบะ’ แปลได้ว่า ‘ลูกลิง’ ในภาษาถิ่นของฮิดะ สื่อถึงความไร้เดียงสาและความสนุกสนานของวัยเยาว์ ตุ๊กตานี้ทำจากผ้าสีแดงสดใส ไม่มีใบหน้า มีเพียงแขนและขาอันเรียวเล็กที่ยื่นออกมา มีลักษณะเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของต้นกำเนิดอันถ่อมตนและเสน่ห์ที่ยืนยาว
ตามตำนานเล่าว่าสีแดงของตุ๊กตานี้มีพลังในการป้องกันวิญญาณร้ายและโรคภัย โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของโรคฝีดาษในสมัยเอโดะ นอกจากนี้ ‘ลิง’ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความคล่องแคล่วและมีชีวิตชีวา ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองของครอบครัว ตุ๊กตาซารุโบโบะ ถือเป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยมที่สื่อถึงความหมายดี ๆ
9.สักการะ วัดฮิดะโคคุบุนจิ เจดีย์โบราณสามชั้น
วัดฮิดะโคคุบุนจิ (Hida Kokubunji Temple) เป็นวัดสำคัญในเมืองทาคายามะ มีเจดีย์สามชั้นโบราณตั้งตระหง่าน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1820 และมีต้นแปะก๊วยอายุกว่า 1,250 ปี เป็นสัญลักษณ์ของความเก่าแก่และความศักดิ์สิทธิ์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปจากยุคเฮอัน รวมถึงองค์พระยาคุชิ เนียวไร ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ วัดนี้มีความพิเศษที่สร้างขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิโชมุในปี ค.ศ. 741 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัดโคคุบุนจิทั่วประเทศ วัดฮิดะโคคุบุนจิได้รับการขนานนามว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคฮิดะ
ภายในวัดยังมีเจดีย์สามชั้นเพียงแห่งเดียวในฮิดะที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยช่างฝีมือนามว่า ‘มิซึมะ ซากามิ’ ในปี ค.ศ. 1821 .. ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการดูแลและยังคงมีบทบาทสำคัญในด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนฮิดะ โดยทุกวันที่ 8 ของเดือนจะมีการประกอบพิธีบูชาพระยาคุชิ เนียวไร และในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม มีตลาดโยไคจิซึ่งเป็นตลาดลอยฟ้าที่นำเสนอของท้องถิ่นและสิ่งของที่มีเอกลักษณ์ของฮิดะ ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น
การเดินทาง : เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีJRทาคายาม่า
ที่ตั้ง : 1-83 Souwamachi, Takayama City, Gifu
เว็บไซต์ : https://hidakokubunji.jp/
สำหรับใครที่มีแพลนอยากไปเที่ยวทาคายาม่า ก็อย่าลืมแวะ 9 สถานที่เช็คอินยอดนิยมที่ได้แนะนำไปนะครับ เพราะหลาย ๆ สถานที่เป็นสถานที่สำคัญและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ผ่านร้อนผ่านหนาวแล้วยังคงตั้งอยู่จนถึงปัจจุบัน หากเทียบเป็นมูลค่าแล้วคงจะประเมินกันไม่ได้เลยทีเดียว หากพลาดไม่ไป คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องในชีวิตที่น่าเสียดาย
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ