รถยนต์ติดแก๊ส CNG/NGV ปลอดภัยไหม ประกันภัยคุ้มครองไหม

รถยนต์ติดแก๊ส CNG/NGV ปลอดภัยไหม ประกันภัยคุ้มครองไหม

ในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันผันผวนและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น การหันมาใช้เชื้อเพลิงอย่างแก๊สธรรมชาติถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของรถหรือผู้ประกอบการได้ โดยเฉพาะรถบัสโดยสาร รถบรรทุก หรือแม้แต่ในรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งแก๊สที่นิยมติดตั้งใช้งานส่วนใหญ่ก็จะเป็น CNG หรือ NGV แต่จะมีใครรู้บ้างหรือไม่ว่า ข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังในการติดตั้งแก๊สมีอะไรบ้าง ? ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง การบำรุงรักษา และรถติดแก๊สทำประกันภัยได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบมาฝาก

รถยนต์ติดแก๊ส CNG/NGV มีความเสี่ยงหรือไม่

รถยนต์ติดแก๊ส CNG/NGV มีความเสี่ยงหรือไม่

รถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊ส CNG/NGV มีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยที่แตกต่างจากรถยนต์ใช้น้ำมัน เนื่องจาก CNG เป็นก๊าซที่มีแรงดันสูง การติดตั้งต้องผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวดและต้องใช้ชิ้นส่วนที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น

  • ความเสี่ยงในการรั่วไหลของแก๊ส

ความเสี่ยงหลักของระบบแก๊ส คือการรั่วไหล ซึ่งอาจเกิดจากการบำรุงรักษาที่ไม่ดี หรืออุปกรณ์เสื่อมสภาพจากการใช้งาน เช่น วาล์ว , สายแก๊ส หากเกิดการรั่วไหล จะเป็นอันตรายทั้งกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

  • อันตรายจากการระเบิด

หากมีแก๊สรั่วไหลและเกิดประกายไฟ ระบบแก๊ส CNG มีโอกาสเกิดการระเบิด แต่โอกาสเกิดเหตุดังกล่าวจะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการติดตั้งที่ได้มาตรฐานและการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง

  • มาตรฐานความปลอดภัยของถังแก๊ส

โดยปกติแล้วบริษัทผู้ผลิตถังแก๊สจะมีการทดสอบและตรวจสอบความปลอดภัยจนได้รับการรับรองที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งในประเทศไทยมีกฎ-ระเบียบเพื่อควบคุมการติดตั้งและการใช้งาน เช่น การตรวจเช็กถังแก๊สเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและผลกระทบระหว่างรถติดแก๊สและรถน้ำมัน

เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและผลกระทบระหว่างรถติดแก๊สและรถน้ำมัน
  • ค่าใช้จ่ายในการเติมเชื้อเพลิง 

CNG เป็นเชื้อเพลิงที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินและดีเซลอย่างชัดเจน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ขับรถเป็นประจำหรือเดินทางไกล

  • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษา 

การติดตั้งระบบ CNG มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นค่อนข้างสูงและการบำรุงรักษาระบบแก๊สต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายของน้ำมันในระยะยาว การใช้ CNG อาจคุ้มค่ากว่า

  • ผลกระทบต่อสมรรถนะรถยนต์ 

รถยนต์ที่ใช้ CNG อาจมีความเร็วและสมรรถนะในการเร่งที่น้อยลงเมื่อเทียบกับน้ำมัน เนื่องจากคุณสมบัติของแก๊สที่แตกต่างกัน แต่ผลกระทบนี้จะน้อยมากในรถยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม 

  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

CNG/NGV  ถือว่าเป็นพลังงานสะอาดที่มีการปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าน้ำมัน การใช้แก๊สเป็นพลังงานช่วยลดการปล่อยมลพิษ ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

ข้อควรระวังและการบำรุงรักษารถยนต์ติดแก๊ส CNG/NGV

การบำรุงรักษารถยนต์ที่ใช้แก๊ส CNG/NGV จำเป็นต้องใส่ใจมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  • 1. ตรวจเช็กสภาพของถังและวาล์วอย่างสม่ำเสมอ

ถังแก๊สควรตรวจสอบว่ามีรอยรั่วหรือชำรุดหรือไม่ รวมถึงตรวจเช็กระบบวาล์วและท่อที่เชื่อมต่ออย่างสม่ำเสมอโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

  • 2. เปลี่ยนอุปกรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด

อุปกรณ์บางชิ้น เช่น วาล์วและสายแก๊ส อาจเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ควรเปลี่ยนใหม่ตามอายุการใช้งานเพื่อป้องกันการรั่วไหลและเพิ่มความปลอดภัย

  • 3. ตรวจสอบระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ 

ระบบแก๊ส CNG/NGV เมื่อทำงานที่อุณหภูมิสูง จึงควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนให้ดี หากเครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินไป อาจเสี่ยงต่อการระเบิดได้ 

  • 4. ควรใช้บริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญในการบำรุงรักษา 

การบำรุงรักษาระบบแก๊สต้องอาศัยความชำนาญและความรู้ในการดูแล ควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรองเพื่อความปลอดภัย

ประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองครอบคลุมหรือไม่

ประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองครอบคลุมหรือไม่

สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สไม่ว่าจะเป็นแก๊ส CNG หรือ NGV บริษัทประกันสามารถรับทำประกันได้หมด เพียงแต่จะต้องการแจ้งให้บริษัทประกันทราบถึงการดัดแปลงนี้ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับความคุ้มครอง ซึ่งบริษัทประกันมักกำหนดเงื่อนไขความคุ้มครองเพิ่มเติมตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น

  • 1. ต้องติดตั้งที่ศูนย์บริการติดตั้งแก๊สที่ได้มาตรฐาน 

หากต้องการจะติดตั้งแก๊ส จะต้องติดตั้งที่ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะต้องมีคุณภาพได้มาตรฐาน มี มอก.รับรอง 

  • 2. แจ้งกรมขนส่งและตรวจสภาพ 

หลังจากติดตั้งแก๊สรถยนต์เป็นที่เรียบร้อย เจ้าของรถจะต้องแจ้งเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลของรถยนต์ จากนั้นนำรถเข้ารับการตรวจสอบสภาพและทดสอบถังแก๊สจากผู้ตรวจและทดสอบที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก หลังตรวจสอบเสร็จสิ้น จะได้รับหนังสือรับรอง (ใบวิศวกร) เซ็นรับรองโดยวิศวกร นำหนังสือรับรอง (ใบวิศวกร) ไปเป็นหลักฐานในการชำระภาษีรถประจำปี

  • 3. แจ้งข้อมูลการติดตั้งแก๊สกับบริษัทประกัน

หลังจากต่อภาษีรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยให้ทำการติดต่อบริษัทประกัน พร้อมแจ้งข้อมูลการติดตั้งแก๊สโดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ใบเสร็จอุปกรณ์ หรือถ่ายภาพใบเสร็จในการติดตั้งแก๊ส ส่งให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ เพื่อประเมินราคา
  • บริษัทประกันภัยรถยนต์จะคิดเบี้ยประกันเพิ่มเติม ในส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น
  • ชำระค่าเบี้ย
  • บริษัทประกันภัยรถยนต์จะออกกรมธรรม์เพิ่มเติม หรือสลักหลังให้เจ้าของกรมธรรม์ เป็นส่วนที่คุ้มครองอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น
  • 4. บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบก็ต่อเมื่อ
  • ไม่มีการแจ้งข้อมูลกรมขนส่ง
  • มีการทำประกันไปแล้ว ติดตั้งแก๊สในภายหลัง
  • ถังแก๊สและอุปกรณ์ไม่มีคุณภาพและไม่ได้รับการรับรองจากวิศวกร

การติดแก๊สช่วยประหยัดค่าน้ำมัน แต่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงและมีความเสี่ยงในการใช้งาน อีกทั้งการดูแลรักษาซับซ้อนขึ้น จึงควรเลือกอู่หรือศูนย์ซ่อมที่น่าเชื่อถือ และตรวจเช็กระบบแก๊สอย่างสม่ำเสมอตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ