แนะนำ 19 ที่เที่ยวฮอกไกโด เที่ยวภาคเหนือญี่ปุ่นต้องไปให้ได้

แนะนำ 19 ที่เที่ยวฮอกไกโด เที่ยวภาคเหนือญี่ปุ่นต้องไปให้ได้

ฮอกไกโด ดินแดนแห่งความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่งและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 19 สถานที่ท่องเที่ยวสุดประทับใจในฮอกไกโด พร้อมข้อมูลการเดินทางที่ครบถ้วน เตรียมตัวตะลุยความงามของญี่ปุ่นเหนือกันเลย!

1. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)

เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)

เทศกาลหิมะซัปโปโร เป็นงานเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 2 ล้านคน เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะจัดงานในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยในปี ค.ศ.2025 นี้ จะจัดเป็นครั้งที่ 75 ระหว่างวันที่ 4 – 11 กุมภาพันธ์ 2025 ภายในงานประกอบไปด้วยประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งขนาดมหึมาที่มีความสวยงามตระการตา มีการตกแต่งแสงไฟประดับประดาสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก พร้อมประกวดการแกะสลักน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุก เช่น การเล่นสกี , การเล่นหิมะ และการชิมอาหารท้องถิ่น

โดยสถานที่จัดงานหลักเทศกาลหิมะซัปโปโร จะมีอยู่ด้วยกัน 3 สถานที่ ได้แก่ สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) , ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) และสึโดม (Tsudome)

2. โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

‘ชิโรอิ โคอิบิโตะ พาร์ค’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม ‘โรงงานช็อกโกแลตฮอกไกโด’ ที่ถึงแม้จะมีชื่อเรียกว่าโรงงานแต่ที่นี่กลับไม่ใช่สถานที่ในการผลิตช็อกโกแลตจริง ๆ หากแต่เป็นสวนสนุกที่มาในธีมช็อกโกแลต เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ภายในมีเวิร์กช็อปการสาธิตการทำช็อกโกแลต , ร้านค้าจำหน่ายขนมหวานหลากหลายชนิด , ของฝาก , และคาเฟ่ที่เสิร์ฟขนมหวานอร่อย ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน ทั้งยังมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่ทุกคนจะได้เก็บภาพความทรงจำหวาน ๆ แบบคาวาอี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงามของอาคารสไตล์ยุโรป พร้อมกับชิมขนมบางส่วนที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียว ภายในแบ่งออกเป็นโซนทั้งหมด 7 โซน ให้ได้ร่วมสนุกกัน ประกอบไปด้วย

  • CHOCOTOPIA HOUSE
  • CHOCOTOPIA FACTORY
  • Rose Garden
  • งานประดับไฟฤดูหนาว
  • รถไฟชิโรอิโคอิบิโตะ
  • หอนาฬิกา
  • Gulliver Town POKKE

3. โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen)

โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen)

ไปซัปโปโรทั้งที่ ต้องไปให้ถึง โดยเฉพาะการไปแช่ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ‘โจซังเคออนเซ็น’ เป็นแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ น้ำพุร้อนของที่นี่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สามารถทช่วยรักษาโรคบางชนิดได้ มีที่พัก โรงแรมและเรียวกังมากมายให้เลือกพัก มีกิจกรรมพายเรือแคนูใต้สะพานนิชิกิ ถ่ายรูปกัปปะหรือพรายน้ำตัวเล็กที่เป็นมาสคอตของโจซังเค เป็นสถานที่ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบและดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติที่คุณไม่ควรพลาด เพราะความสวยงามของที่นี่จะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล แปลว่าคุณต้องมาซ้ำให้ครบทุกซีซั่นนะ

4. พิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)

พิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)

สายดื่มไม่ควรพลาดกับพิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งซัปโปโร ถือเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเบียร์ ตัวอาคารมีความเก่าแก่แต่ยังคงความสวยงาม เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเบียร์ซัปโปโร ตั้งแต่กระบวนการหมัก บ่ม และชิมเบียร์สดที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด โดยเฉพาะเบียร์จาก 5 แบรนด์ดังที่จะแนะนำต่อไปนี้

  • 1. Sapporo Classic – เบียร์สดฟองนุ่ม ๆ ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน ให้กลิ่นหอม รสชาติเป็นเอกลักษณ์
  • 2. Sapporo five star – ออริจินอลเบียร์จากซัปโปโร ที่ให้รสชาติที่เข้มข้น โดดเด่นกว่าเบียร์ทั่วไป
  • 3. Sapporo Draft Beer Black Label – เบียร์ที่ให้กลิ่นหอมของฮ็อพ (Hop) พร้อมรสชาติที่เข้มข้น
  • 4. Half & Half – เบียร์พรีเมี่ยม  จาก Yebisu มีสีเข้มข้น ให้รสสัมผัสเบา ไม่เข้มจนเกินไป
  • 5. Yebis (Taruo) – เป็นเบียร์ที่ผลิตจากมอลต์ 100% มีกระบวนการผลิตที่ผสมผสานระหว่างการทำเบียร์แบบญี่ปุ่น และเยอรมนี

5. จุดชมวิวภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa)

จุดชมวิวภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa)

สถานที่ชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรแบบ 360 องศา โดยเฉพาะในยามค่ำคืน วิวแสงไฟของเมืองมีความสวยงามจนติดอันดับโลก ‘จุดชมวิวภูเขาโมอิวะ’ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในซัปโปโร โดยภูเขาโมอิวะมีความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 531 เมตร ทำให้มองเห็นวิวเมืองซัปโปโรได้ทั่วทั้งเมือง สามารถเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาได้ด้วยกระเช้าลอยฟ้าหรือจะเดินขึ้นไปก็ได้แต่อาจใช้เวลาพอสมควร กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน Mount Moiwa คือ การลั่นระฆังที่ตั้งอยู่บนจุดชมวิวและคล้องกุญแจแห่งความรักที่ว่ากันว่าจะทำให้คู่รักรักกันตลอดไป

6. ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)

ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)

‘ป้อมโงเรียวกาคุ’ หรือ ‘ป้อมปราการรูปดาวห้าแฉก’ ที่มีประวัติทางประวัติศาสตร์มากกว่าร้อยปี เดิมทีเป็นป้อมที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองจากการล่าอาณานิคมของชาวตะวันตกในสมัยนั้น ในแต่ละมุมของแฉกทั้ง 5 แฉก จะมีปืนใหญ่ประจำการอยู่ ถือเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น หากมองจากมุมบนป้อมโงเรียวกาคุจะมีวิวที่สวยงาม บริเวณโดยรอบโอบล้อมไปด้วยต้นซากุระมากกว่า 1,600 ต้น ทำให้ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง บริเวณป้อมยังมีอาคารสำคัญ ๆ อย่างอดีตที่ทำการรัฐบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ และ หอคอยโงเรียวกาคุ ที่สามารถมองเห็นเมืองฮาโกะดาเตะได้ทั่วทั้งเมืองอย่างสวยงาม

7. จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ เป็นจุดชมวิวที่ได้รับการจัดอันดับ 1 ใน 3 ของจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอีก 2 แห่งได้แก่ ภูเขาอินาซะ (Mount Inasa) ที่นางาซากิ(Nagasaki) และ ภูเขารอคโค (Mount Rokko) ที่โกเบ(Kobe) โดยจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะมีความสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้มองเห็นวิวเมืองฮาโกะดาเตะและทะเลได้อย่างสวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามค่ำคืนที่แสงไฟของเมืองจะส่องสว่างสวยงาม สำหรับนักท่องเที่ยวจะขึ้นไปบนจุดชมวิวได้จะต้องขึ้นกระเช้าลอยฟ้าขั้นไป รับรองได้เลยว่าคุณจะประทับใจกับความสวยงามของวิวด้านล่างจนลืมกลัวความสูงไปเลย

8. ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)

ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)

คลองโอตารุ อยู่ไม่ใกล้และไม่ไกลจากเมืองซัปโปโร สามารถที่จะนั่งรถไฟใช้เวลาประมาณ 30 นาที เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีคลองน้ำใสสะอาด เรียงรายไปด้วยโกดังเก่าแก่ที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นร้านค้าและร้านอาหาร บรรยากาศโรแมนติกสไตล์ยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมขาวโพลนไปหมด ในช่วงเวลากลางคืนมีการตกแต่งไฟประดับและโคมไฟทำให้มีความสวยงามยิ่งนัก เหมาะสำหรับการเดินเล่น ถ่ายรูปและช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึก

9. คิโรโระ สกีรีสอร์ต (Kiroro Ski Resort)

คิโรโระ สกีรีสอร์ต (Kiroro Ski Resort)

คิโรโระ สกีรีสอร์ต เป็นอีกหนึ่งสถานที่หากได้มาเยือนฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาว ที่จะต้องไม่พลาดกับการเล่นสกีท่ามกลางหิมะสีขาวอยู่เต็มไปหมด คิโรโระ สกีรีสอร์ต เป็นรีสอร์ทสกีที่มีชื่อเสียง มีลานสกีที่สวยงาม หากหิมะตกหนัก ทั่วทั้งภูเขาจะกลายเป็นสีขาว เหมาะสำหรับนักสกีทุกระดับ มีโรงแรมและที่พักมากมายให้เลือก เชื่อได้ว่าทุกคนที่มาแล้วจะต้องมาสัมผัสกับหิมะที่หนาวเย็นแห่งนี้อย่างแน่นอน

อ่านแล้วหรือยัง?

Wangjai and Maanjai

10. ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field)

ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field)

ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของดอกไม้หลากหลายชนิดที่บานสะพรั่งตลอดช่วงฤดูร้อน ไฮไลต์สำคัญคือ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ที่เต็มไปด้วยสีม่วงสดใสและกลิ่นหอมอบอวลทั่วบริเวณ ดอกลาเวนเดอร์มักบานช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเยี่ยมชม

ภายในพื้นที่ยังมีดอกไม้อื่น ๆ ที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ เช่น ดอกไอริสเยอรมัน , ดอกหน้าแมว , ดอกคอสมอส และดอกโคลัมไบน์ ซึ่งสร้างทัศนียภาพที่งดงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายภาพยอดนิยม เช่น เนินลาดสีรุ้งที่ดูเหมือนพรมหลากสี

11. ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area)

ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area)

ลานสกีฟูราโน่ เป็นหนึ่งในลานสกียอดนิยมในฮอกไกโด ด้วยหิมะที่มีความละเอียดและเบา จึงเหมาะสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ลานสกีแห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลกและมักถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันอยู่เป็นประจำ โดยลานสกีแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนสำหรับผู้เริ่มต้น และ โซนสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ ไฮไลต์ของที่นี่คือ วิวภูเขาไฟโทคาจิ (Tokachi Mountains) ที่สามารถชมได้ขณะเล่นสกีลงจากยอดเขา นอกจากนี้ยังมีลานเล่นหิมะและกิจกรรมสำหรับครอบครัว เช่น การเลื่อนหิมะ , ขี่สโนว์โมบิล , บ้านลม และอื่น ๆ อีกมากมาย

12. นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace)

นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace)

นิงเกิ้ลเทอเรส คือหมู่บ้านไม้เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนอันเงียบสงบของเมืองฟุราโนะ บรรยากาศของที่นี่โรแมนติกและอบอุ่น โดยเฉพาะในช่วงเย็นเมื่อแสงไฟจากกระท่อมไม้เล็ก ๆ ส่องประกายสวยงามราวกับหลุดเข้าไปในเทพนิยาย

ภายในหมู่บ้านประกอบด้วยร้านค้าและเวิร์กชอปงานฝีมือหลากหลาย เช่น งานแกะสลักไม้ , เครื่องประดับจากธรรมชาติ และของที่ระลึกทำมือ นอกจากนี้ยังมีร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น การ์ดอวยพร , น้ำผึ้งท้องถิ่น และของตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมกิจกรรมทำงานฝีมือเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเก็บไว้เป็นของที่ระลึก

13. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยการออกแบบพื้นที่จัดแสดงให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถชมพฤติกรรมของสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดและสมจริง จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้คือ การจัดแสดงแบบ Interactive เช่น อุโมงค์เพนกวินใต้น้ำ ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมเพนกวินว่ายน้ำอย่างใกล้ชิดผ่านอุโมงค์แก้ว , หอสังเกตการณ์หมีขั้วโลก ทำให้เห็นหมีขั้วโลกเล่นน้ำหรือเดินอยู่เหนือหัวของคุณ , กรงลิงญี่ปุ่น ชมลิงหิมะในสภาพแวดล้อมจำลองที่เหมือนธรรมชาติจริง นอกจากนี้ยังมีโชว์เดินเพนกวินในช่วงฤดูหนาวที่เป็นไฮไลต์พิเศษที่นักท่องเที่ยวสามารถชมขบวนเพนกวินที่เดินเล่นท่ามกลางหิมะอย่างใกล้ชิด

14. หมู่บ้านน้ำแข็งโทมามุ (Hoshino Resort Tomamu Ice Village)

หมู่บ้านน้ำแข็งโทมามุ (Hoshino Resort Tomamu Ice Village)

หมู่บ้านน้ำแข็งโทมามุ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฤดูหนาวที่มีเสน่ห์และไม่เหมือนใครในฮอกไกโด ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ตหรู Hoshino Resort Tomamu หมู่บ้านแห่งนี้สร้างขึ้นจากน้ำแข็งและหิมะทั้งหมด ให้ความรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกนิทาน

ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด

  • Ice Chapel โบสถ์น้ำแข็งที่งดงามและมักใช้จัดพิธีแต่งงาน
  • Ice Bar บาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มในแก้วที่ทำจากน้ำแข็ง
  • Ice Hotel โรงแรมน้ำแข็งที่คุณสามารถพักค้างคืนได้
  • Ice Rink ลานสเก็ตน้ำแข็งที่เหมาะสำหรับทุกวัย
  • Ice Atelier เวิร์กชอปงานประดิษฐ์จากน้ำแข็ง เช่น การแกะสลักน้ำแข็ง

บรรยากาศในหมู่บ้านอบอวลไปด้วยแสงไฟสีนวลยามค่ำคืน สะท้อนกับน้ำแข็งและหิมะจนกลายเป็นภาพที่สวยงามราวกับความฝัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การลื่นไถลบนเนินน้ำแข็ง และการชิมอาหารพื้นเมืองในกระท่อมน้ำแข็ง

15. เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Fall Festival)

เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Fall Festival)

เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นในฤดูหนาวที่โดดเด่นในฮอกไกโด จัดขึ้นที่บริเวณ หุบเขาโซอุนเคียว ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและธรรมชาติอันงดงาม เทศกาลนี้มีชื่อเสียงจากการประดับประดาน้ำแข็งและหิมะด้วยแสงไฟหลากสีที่เปล่งประกายอย่างงดงามในยามค่ำคืน

ไฮไลต์ของเทศกาล

  • ชมประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่และอุโมงค์น้ำแข็ง 100 เมตร ที่สร้างจากการสูบน้ำจากแม่น้ำมาทำเป็นอุโมงน้ำแข็ง
  • ถ้ำและปราสาทน้ำแข็ง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสำรวจภายในและสัมผัสความงดงามของน้ำแข็งที่เรืองแสง 
  • การแสดงพลุ จัดขึ้นในช่วงเย็นเพื่อเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้กับงาน
  • กิจกรรมสไลด์น้ำแข็ง เหมาะสำหรับครอบครัวและเด็ก ๆ ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สนุกสนาน
  • ลานน้ำแข็งพร้อมเครื่องดื่ม เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มร้อนในแก้วน้ำแข็งที่ไม่เหมือนใคร

เทศกาลนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาวแท้ ๆ และความงดงามของธรรมชาติในรูปแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น

16. หุบเขานรก จิโกคุดานิ (Jigokudani)

หุบเขานรก จิโกคุดานิ (Jigokudani)

‘หุบเขานรก จิโกคุดานิ’ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่โดดเด่นในฮอกไกโด ตั้งอยู่ในเมืองโนโบริเบทสึ หุบเขานี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยแหล่งน้ำพุร้อน ไอน้ำและกลิ่นกำมะถันที่พวยพุ่งออกมาจากใต้ดินตลอดเวลา ที่มาของชื่อ ‘หุบเขานรก’ มาจากบรรยากาศที่ดูคล้ายกับภาพในจินตนาการของนรกที่มีไอของกำมะถันพวนพุ่งออกมาอยู่ตลอดเวลา แต่แท้จริงแล้วสถานที่แห่งนี้งดงามและเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ , เส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ทอดยาวเข้าไปในพื้นที่ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอย่างจุดชมวิวโอยุนุมะ (Oyunuma) ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยไอน้ำและกลิ่นกำมะถันที่ลอยขึ้นมาจากพื้นดิน ทำให้ได้อารมณ์แปลกใหม่

นักท่องเที่ยวมักเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติและสัมผัสความร้อนจากบ่อน้ำพุร้อนที่มาจากใต้ดิน นอกจากนี้ยังสามารถแช่ออนเซ็นในรีสอร์ตที่อยู่ใกล้เคียงได้อีกด้วย

17. นิเซโกะ สกีรีสอร์ต (Niseko Village Ski Resort)

นิเซโกะ สกีรีสอร์ต (Niseko Village Ski Resort)

นิเซโกะ สกีรีสอร์ต (Niseko Village Ski Resort) ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด บนเขานิเซโกะ (Mount Niseko Annupuri) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของหิมะที่ละเอียดและหนาฟู ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่เล่นสกีที่ดีที่สุดในโลก จึงไม่แปลกใจหากจะพบนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยไปเป็นจำนวนมาก

จุดเด่นของ Niseko Village Ski Resort

  • หิมะที่นิเซโกะมีลักษณะพิเศษเป็น Powder Snow ที่มีความนุ่มละเอียดและเหมาะสำหรับการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด 
  • รีสอร์ตมีเส้นทางสำหรับนักสกีทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพ
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโรงแรมหรู ร้านอาหาร เช่น The Green Leaf Niseko Village และ Hilton Niseko Village
  • มีบ่อน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) สำหรับผ่อนคลายหลังเล่นสกี

18. ชมลิงแช่ออนเซ็น สวนพฤกษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)

ชมลิงแช่ออนเซ็น สวนพฤกษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)

สวนพฤกษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวสามารถชมลิงแช่ออนเซ็นในบรรยากาศที่แปลกตาและสนุกสนาน

ไฮไลท์ของที่นี่คงเป็นอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากการมาชมลิงญี่ปุ่นแช่ออนเซ็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว (ประมาณเดือนธันวาคมถึงมีนาคม) ลิงญี่ปุ่น (Japanese Macaque) จะมารวมตัวกันที่บ่อน้ำพุร้อนที่จัดเตรียมไว้ให้ในสวน นักท่องเที่ยวสามารถชมพฤติกรรมธรรมชาติของลิงเหล่านี้ที่กำลังผ่อนคลายและเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน นอกจากชมลิงและพืชพรรณ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัว เช่น การให้อาหารลิง , การสำรวจเส้นทางเดินชมธรรมชาติในสวน

19. บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen): เมืองโนโบริเบทซึ

บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen)

จุดเด่นทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของหุบเขานรก จิโกคุดานิ (Jigokudani) คือ บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen) เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด ตั้งอยู่ในเมืองโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการสัมผัสการแช่ออนเซ็นเพื่อความผ่อนคลายและสุขภาพ จุดเด่นของบ่อน้ำร้อนแห่งนี้จะมีแร่ธาตุหลากหลายชนิด เชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและอาการปวดเมื่อย แนะนำให้แช่ออนเซ็นกลางแจ้งเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติรอบตัว ทั้งวิวภูเขา หุบเขาและท้องฟ้า

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของฮอกไกโด ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอให้คุณไปสำรวจ เพียงเลือกช่วงเวลาและวางแผนการเดินทางของคุณ จากนั้นเตรียมตัวเดินทางเพื่อไปสัมผัสกับความงามของฮอกไกโดกัน

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ