15 ที่เที่ยวกุนมะ เมืองแห่งออนเซ็น มนต์เสน่ห์ธรรมชาติ
กุนมะ (Gunma) เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่สำคัญคือกุนมะอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียวมากนัก สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงโดยใช้ระยะเวลาเพียง 60 – 70 นาที เท่านั้น นอกจากกุนมะจะมีแหล่งน้ำพุร้อนคุณภาพดีแล้วยังมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามเพื่อรอคุณไปสัมผัสอีกด้วย .. ในวันนี้จะพาไปรู้จักกับ 15 ที่เที่ยวเมืองกุนมะ พร้อมรายละเอียดปลีกย่อยเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเดินทางไปเที่ยวที่นี่
การเดินทางมายังจังหวัด กุนมะ (Gunma)
การเดินทางไปยัง กุนมะ มีด้วยกัน 4 วิธีหลัก ๆ คือ
คุซัตสึ ออนเซ็น (Kusatsu Onsen)
คุซัตสึ ออนเซ็น เป็นหนึ่งในสามออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น น้ำพุร้อนที่นี่มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาโรคและช่วยบำบัดความเหนื่อยล้า แนะนำให้ลองแช่ออนเซ็นในตอนเย็นและเช้าอีกวันเพื่อสัมผัสกับน้ำแร่ธรรมชาติในอารมณ์ที่แตกต่างกัน หากได้แช่ออนเซ็นที่นี่ คุณจะได้รับชม ‘ยุโมมิ’ การแสดงการร่ายรำพื้นเมืองของที่นี่พร้อม ๆ ไปกับทำการกวนน้ำเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนของน้ำลง .. ไปถึงแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดแล้วจะต้องไม่พลาดกับ ‘ไข่ออนเซ็น’ ที่นำไข่ไปต้มในน้ำพุร้อน และห้ามพลาดกับกิจกรรมเดินชมเมืองในชุดยูกาตะ
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Naganohara-Kusatsuguchi นั่งรถบัสประมาณ 25 นาที
ของขึ้นชื่อ : Yubatake (บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่มีไอน้ำพุร้อนตลอดเวลา) และ คุซัตสึ ออนเซ็น พุดดิ้ง กับ ไข่ออนเซ็นทามาโกะ
ภูเขาคุซัตสึซิราเนะซัน (Mt. Kusatsu Shirane)
ภูเขาคุซัตสึซิราเนะซัน หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ‘ภูเขาชิราเนะ’ ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก คุซัตสึ ออนเซ็น เป็นสถานที่สำหรับนักเดินป่าหรือท่องเที่ยวในเส้นทางธรรมชาติ ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักเดินป่าโดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวมีหิมะตกหนัก ๆ ต้องยกให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ในการเล่นสกีที่มีคนนิยมมาไม่น้อย จุดเด่นของที่นี่คือปากปล่องภูเขาไฟมีทะเลสาปสีฟ้าที่มีชื่อเรียกว่า ‘Yugama’ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามได้ตลอดทั้งปี
วิธีการเดินทาง : จาก Kusatsu Onsen นั่งรถบัสใช้เวลาประมาณ 30 นาที
น้ำตกฟุคิวาเระ (Fukuware Falls)
น้ำตกที่ได้รับฉายาว่า ‘ไนแองการ่าแห่งญี่ปุ่น’ มีความสูง 7 เมตร กว้าง 30 เมตร ตั้งอยู่ในหุบเขาคาตาชินะ ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้และป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิดด้วยการเดินบนสะพานแขวน ในปลายฤดูหนาวน้ำตกจะไหลแรงมาก เพราะเป็นช่วงที่หิมะเริ่มละลาย
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Numata นั่งรถบัสประมาณ 30 – 40 นาที
ศาลเจ้าฮารุนะ (Haruna Shrine)
ศาลเจ้าโบราณที่มีความศักดิ์สิทธิ์ อายุมากกว่า 1,400 ปี ตั้งอยู่กลางหุบเขาฮารุนะ มีสะพานหินและโครงสร้างเก่าแก่ ปัจจุบันมีคนนิยมไปขอพรด้านการค้า , ขอฝน , ขอความความอุดมสมบูรณ์ของพืชผลทางการเกษตร , ความรักและการแต่งงาน
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Takasaki นั่งรถบัสใช้เวลาประมาณ 50 นาที
วัดโมรินจิ (Morinji Temple)
วัดที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับทานูกิ (แรคคูนญี่ปุ่น) ที่แปลงกายเป็นหม้อ ภายในวัดจะมีรูปปั้นทานูกิเรียงรายอยู่เต็มทางเดิน ว่ากันว่าในอดีตมีความเชื่อว่าหากมีการเติมน้ำลงไปในหม้อ น้ำจะไม่มีวันเหือดแห้ง จึงมักจะมีคนมาขอพรเกี่ยวกับความสมบูรณ์ ทานูกิจึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์
วิธีการเดินทาง : เดินจากสถานี Morinji ประมาณ 10 นาที
วัดโชรินซัง ดารุมะจิ (Shorinzan Daruma-ji Temple)
ดารุมะ หนึ่งในเครื่องรางและสัญลักษณ์ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง วัดโชรินซัง ดารุมะจิ แห่งนี้ เป็นต้นกำเนิดของตุ๊กตาดารุมะที่มีชื่อเสียงนั่นเอง โดยทุกวันที่ 6 และ 7 มกราคมของทุกปี จะมีงาน ‘นานะคุสะไทไซดารุมะอิจิ’ (Nanakusataisai-Darumaichi) มีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลกันไปเยี่ยมชมวัดแห่งนี้พร้อมกับขอพรและซื้อเครื่องรางดารุมะกลับไปด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคลและสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิตในช่วงปีใหม่ ทางวัดมีการจัดเตรียมเครื่องรางและตุ๊กตาดารุมะไว้เป็นจำนวนมาก ใครที่จัดทริปมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ไม่ควรพลาด
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Takasaki นั่งรถบัสประมาณ 20 นาที
สวนสาธารณะโอนิโอชิดาชิ (Onioshidashi Park)
สวนหินลาวาที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ Asama ในปี ค.ศ.1783 หินลาวา หรือหินภูเขาไฟ ที่ปะทุมานั้นจะมีรูปร่างแปลก ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากหินลาวาที่มีความสวยงามในรูปแบบต่าง ๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกนั่นคือ ‘สนผ่าหิน’ ซึ่งเป็นสนแดงที่เกิดขึ้นจากร่องหินภูเขาไฟ บางต้นมีอายุนับร้อยปี ถือเป็นอีกหนึ่งงานศิลปะจากธรรมชาติรังสรรค์ ภายในสวนสาธารณะโอนิโอชิดาชิยังมี ‘อุโบสถเจ้าแม่กวนอิม’ ให้เข้าไปกราบไหว้สักการะขอพรด้วย
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Karuizawa Station หรือ Naka-Karuizawa Station นั่งรถบัสประมาณ 30-35 นาที
วัดเจ้าแม่กวนอิมใหญ่ (Byakue Dai-Kannon Jigen-In)
กราบไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่ เบียคคุอิ ไดคันนง จิเก็นอิน วัดที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1936 โดยมีความสูง 41.80 เมตร ภายในรูปปั้นยังมีบันไดให้สามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามของเมืองได้ ปัจจุบันถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทากาซากิไปแล้ว
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Takasaki นั่งรถบัสประมาณ 15 นาที แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5-10 นาที
ศาลเจ้านากาโนะทาเกะ (Nakanotake Shrine)
ใครที่ต้องการขอพรเกี่ยวกับโชคลาภ เงินทอง และความมั่งคั่ง จะต้องไม่พลาดกับการไปกราบไหว้ ‘ไดโกกุ’ เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่มีความสูงถึง 20 เมตร ที่ศาลเจ้านากาโนะทาเกะ คนที่มาขอพรส่วนใหญ่จะได้รับการปกป้องจากเคราะห์ร้ายและสิ่งที่ไม่ดี พร้อมกับรับสิ่งที่ดี ๆ ความเจริญรุ่งเรืองกลับไป
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Shibukawa นั่งรถบัส 30 นาที
อิกาโฮะ ออนเซ็น (Ikaho Onsen Rotenburo)
อิกาโฮะ ออนเซ็น เป็นออนเซ็นเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเหมือนคาซัตสึออนเซ็น จุดเด่นของที่นี่คือมีบันไดหิน 365 ขั้น ออนเซ็นทองคำ และออนเซ็นเงิน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับออนเซ็นทั้งทองคำและเงินนั้นเป็นผลมาจากแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำ ออนเซ็นทองคำจะมีสีน้ำตาล ช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ส่วนออนเซ็นเงินจะใส ๆ ไม่มีสี ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บ บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยออนเซ็น ร้านค้า ห้องอาบน้ำสาธารณะ และที่พักแบบเรียวกัง ของเด็ดของที่นี่ที่ใคร ๆ ต้องมาลิ้มลองนั่นคือ ‘ซาลาเปาไส้ถั่วแดง’ ที่เต็มไปด้วยความอร่อยและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Shibukawa นั่งรถบัส 25 นาที
ทาคาระกาวะ ออนเซ็น (Takaragawa Onsen Osenkaku)
ออนเซ็นกลางธรรมชาติที่มีแม่น้ำไหลผ่าน เป็นออนเซ็นที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา บ่อออนเซ็นอบอวลไปด้วยไอน้ำ พร้อมให้คุณได้มาพักผ่อนและพักฟื้นร่างกายจากการทำงาน ทาคาระกาวะ ออนเซ็น เป็นหนึ่งในออนเซ็นที่มีชื่อเสียงและเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ ขนาดพื้นที่ 700 ตารางเมตร อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยในการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Minakami นั่งรถบัส 35 นาที
ศาลเจ้าอะกาอิ (Akagi Shrine)
เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอะกาอิ โอบล้อมไปด้วยป่าเขา มีความโดดเด่นในเรื่องของการขอพร ในส่วนของความรัก คู่ครอง ว่ากันว่าศาลเจ้าเป็นที่สิงสถิตขององค์หญิงอะคะงิ ที่มักจะให้พรแก่สุภาพสตรีที่มากราบไหว้สักการะ สัญลักษณ์ของศาลเจ้านี้คือสะพานสีแดงที่ใช้ข้ามจากแผ่นดินใหญ่ไปหาศาลเจ้า
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Maebashi นั่งรถบัส 70 นาที
ชิมะ เซอิริวโนะยุ (Shima Seiryunoyu)
ชิมะ เซอิริวโนะยุ เป็นออนเซ็นกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ มีความสวยงามเพราะโอบล้อมไปด้วยป่าและขุนเขาโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณโดยรอบ ชิมะ เซอิริวโนะยุ จะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้ สีแดง สีส้ม และสีเหลือง ในขณะที่ฤดูกาลอื่น ๆ ทั่วทั้งออนเซ็นจะเต็มไปด้วยสีเขียว
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Nakanojo นั่งรถบัส 30 นาที
บ่อน้ำพุร้อนชิมะ (Shima Hot Spring)
ชิมะออนเซ็น บ่อน้ำพุร้อนที่รักษาได้ทุกโรค เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำที่มีความใสสะอาดและมีชื่อเสียงที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกุนมะ ส่วนประกอบหลักของแร่ธาตุในน้ำพุร้อน คือ กำมะถัน ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาโรค ได้แก่ โรคปวดเส้นประสาท , ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า , ช่วยรักษาบาดแผล
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Nakanojo นั่งรถบัส 50 นาที
ยูบาทาเกะ (Yubatake)
ยูบาทาเกะแหล่งน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดของคุซัตสึออนเซ็น อยู่ในเขตยูบาทาเกะซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนหลักของเมือง มีที่พักในแบบเรียวกัง อุณหภูมิของน้ำสูงถึง 70 องศาเซลเซียส แร่ธาตุหลักประกอบไปด้วยกำมะถันจึงมีสรรพคุณในการรักษาโรคบางชนิด เช่น ช่วยรักษาบาดแผล , ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริการออนเซ็นเท้าเพื่อช่วยผ่อนคลายเท้าหลังจากเดินเที่ยวมาตลอดทั้งวันแบบไม่คิดตังอีกด้วย
วิธีการเดินทาง : ตั้งอยู่ใจกลาง Kusatsu Onsen เดินเท้าได้สะดวก
การเที่ยวกุนมะเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานทั้งธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม และความผ่อนคลายจากออนเซ็นที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ทุกคนจะต้องมาสักครั้งให้ได้ นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อและไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ประกอบไปด้วย มิซึซาวะ อุด้ง เส้นอุด้งท้องถิ่นที่มีความนุ่มเหนียว , ยากิมันจู ขนมปังไส้ถั่วแดงย่าง , สึเคะมัน ผักดองแบบดั้งเดิม , ทงคัตสึ หมูทอดสไตล์กุนมะที่ใช้หมูคุณภาพดี , โอนิมันจู ขนมปังไส้ถั่วแดงรูปปีศาจ และอื่น ๆ อีกหลายเมนู หวังว่าทุกคนคงจะได้ข้อมูลในการเตรียมความพร้อมเพื่อมาเที่ยวที่กุนมะแห่งนี้
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ