เทคนิคการเงินสำหรับคนอยากเกษียณเร็ว

เทคนิคการเงินสำหรับคนอยากเกษียณเร็ว

การเกษียณเร็วเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนทำงานหลายคนที่ใฝ่ฝัน แต่การที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้จะต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ดีและรอบคอบ เพราะในบั้นปลายชีวิตของทุกคนนั้นมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่แอบแฝงจนหลงลืมไปว่ามันสำคัญขนาดไหน เช่น ค่ารักษาพยาบาล , อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี , ค่าเดินทาง , ค่าเล่าเรียนบุตร , ค่าสังคมของผู้สูงอายุ ตลอดจนการคำนวณอายุขัยหลังเกษียณ ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับเทคนิคสำคัญในการบริหารจัดการ การเงิน , การลงทุน , การลดค่าใช้จ่าย เพื่อเป้าหมายการเกษียณเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ

การคำนวณเป้าหมายเงินเกษียณ

การคำนวณเป้าหมายเงินเกษียณเป็นขั้นตอนแรกในการวางแผนชีวิตหลังเกษียณ เพราะจะต้องนำเงื่อนไขและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการคำนวณ เช่น อายุที่ต้องการเกษียณ, อายุขัยที่เหลืออยู่หลังเกษียณ, ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ, อัตราเงินเฟ้อ, อายุปัจจุบัน, รายได้ปัจจุบันและหนี้สินที่มีอยู่

การคำนวณเป้าหมายเงินเกษียณ

ขั้นตอนในการคำนวณ

1. กำหนดอายุและค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ

ตัดสินใจว่าคุณต้องการจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่และประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือนที่จำเป็นหลังจากเกษียณ รวมถึงอายุขัยหลังเกษียณประมาณ 17 ปี (เป็นตัวเลขอ้างอิงจากสถาบันประชากรและสังคมของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยยึดเอาอายุเกษียณที่ 60ปี)

ยกตัวอย่าง หากคุณต้องการเกษียณตัวเองที่อายุ 55 ปี และคาดว่าจะต้องใช้เงินหลังเกษียณประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน นั่นหมายความว่าใน 1 ปี คุณจะต้องใช้เงินประมาณ 240,000 บาท คุณจะต้องเตรียมเงินอย่างน้อย 240,000 x (5+17) = 5,280,000 บาท ซึ่งตัวเลข 17 ปี อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยอาจเพิ่มเป็น 20 ปี 25 ปี หรือ 30 ปี ขึ้นอยู่กับสุขภาพและความแข็งแรงของคุณเอง

2. พิจารณาอัตราเงินเฟ้อ

ในการคำนวณเงินที่จะต้องใช้งานหลังเกษียณอย่าลืมคิดถึงในส่วนของอัตราเงินเฟ้อที่จะมีการปรับตัวสูงขึ้นเข้ากับค่าใช้จ่ายในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่ามีรายได้เพียงพอแม้ในยามเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง โดยมีวิธีการคำนวณโดยใช้สูตร มูลค่าในอนาคต (Future Value : FV) ดังนี้

สูตรคำนวณมูลค่าอนาคต ซึ่งใช้ในการคำนวณดอกเบี้ยทบต้นและการเติบโตของเงินลงทุน
FV = PV(1+i)n
โดยที่
FV = มูลค่าในอนาคต (Future Value)
PV = มูลค่าปัจจุบัน (Present Value)
i = อัตราดอกเบี้ยหรืออัตราการเติบโตต่อช่วงเวลา (Interest Rate per Period)
n = จำนวนช่วงเวลา (Number of Periods)
เงินเก็บหลังเกษียณเมื่อคิดอัตราเงินเฟ้อ = จำนวนเงินที่คาดว่าจะใช้หลังเกษียณ * (1+อัตราเงินเฟ้อ)^จำนวนปีของอายุขัยที่เหลืออยู่
เงินเก็บหลังเกษียณเมื่อคิดอัตราเงินเฟ้อ = 5,280,000 * (1+2%)22 = 8,162,772.66

3. ตรวจสอบรายรับปัจจุบันและเงินเก็บสำรอง

สำรวจรายรับปัจจุบันและเงินออมของคุณว่ามีรายรับต่อเดือนเท่าใด มีเงินเก็บอยู่ที่ใด และอยู่ในรูปแบบใดบ้าง เช่น เงินได้ , รายได้เสริม , เงินฝากบัญชีธนาคาร , กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือประกันออมทรัพย์ เพื่อดูว่ามีจำนวนเท่าใด

4. รู้รายจ่ายของตนเอง

เมื่อรับรู้รายรับและเงินเก็บแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือการคำนวณในส่วนของรายจ่ายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วรายจ่ายจะค่อย ๆ ลดลงหลังเกษียณ มีการประเมินคร่าว ๆ ว่ารายจ่ายที่อาจเกิดขึ้นหลังเกษียณไม่ควรเกิน 70% ของค่าใช้จ่ายต่อเดือนก่อนเกษียณ เช่น หากค่าใช้จ่ายต่อเดือนก่อนเกษียณอยู่ประมาณ 10,000 ต่อเดือน นั่นหมายความว่าหลังเกษียณค่าใช้จ่ายควรลดลงเหลือ 7,000 บาทต่อเดือน

แผนการลงทุนเพื่อให้ถึงเป้าหมายเกษียณไว

การที่จะไปถึงเป้าหมายทางการเงินด้วยความรวดเร็ว ลำพังอาศัยเพียงแค่รายรับจากเงินเดือนเพียงช่องทางเดียวค่อนข้างจำเป็นไปด้วยความยากลำบากและคาดว่าจะทำให้ยืดเวลาการเกษียณออกไป ดังนั้นการลงทุนอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่จะมีอิสรภาพทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแนวคิด FIRE (Financial Independence, Retire Early) หรืออิสรภาพทางการเงินและเกษียณก่อนกำหนด เป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่เน้นการออมเงินอย่างหนักและลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากงานประจำอีกต่อไป เน้นการใช้รายได้ส่วนใหญ่ไปกับการออมและการลงทุนมากกว่า โดยมีแนวทางในการลงทุนดังนี้

แผนการลงทุนเพื่อให้ถึงเป้าหมายเกษียณไว
  • กองทุนรวมและหุ้น การลงทุนในกองทุนรวม หรือหุ้นที่มีความเสี่ยงเหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ สามารถให้ผลตอบแทนระยะยาวได้ดี
  • อสังหาริมทรัพย์ การซื้อขาย หรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ สามารถสร้างรายได้ทบต้นและ Passive Income ได้ด้วย
  • ประกันออมทรัพย์แบบสะสมทรัพย์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ชอบความปลอดภัยและมีผลตอบแทนสะสมระยะยาว
  • ทองคำ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต

*** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ที่สนใจจะต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนนั้น ๆ ก่อนเสมอ

การลดค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มเงินเก็บ

การจัดการรายจ่ายอย่างระมัดระวังคือกุญแจสำคัญในการเก็บออมมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังมุ่งมั่นทำตามแนวทาง FIRE หรือวางแผนสำหรับการออกจากงานเร็วๆ นี้

เคล็ดลับการลดค่าใช้จ่าย

  • ควบคุมการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ลดการใช้สินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าที่ไม่ก่อประโยชน์ เพราะสุดท้ายอาจพบว่าส่วนใหญ่เป็นการซื้อทิ้งไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ใช้ตารางหรือแอปพลิเคชันสำหรับบันทึกรายละเอียดการใช้เงินในแต่ละเดือน ช่วยให้มองเห็นว่าส่วนไหนควรปรับปรุงหรือลดลง

โดยรวมแล้วการวางแผนและการบริหารทางการเงินที่ดีนอกจากจะทำให้คุณบรรลุความฝันในเร็ววัน ยังช่วยให้ชีวิตหลังจากออกจากงานเต็มไปด้วยคุณภาพ มีความสบายใจและมีความพร้อมทางการเงินมากขึ้นด้วย

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ