10 ที่เที่ยว กุนมะ (Gunma) สุดยอดออนเซ็นธรรมชาติ

จังหวัดกุนมะ (Gunma) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว กุนมะโดดเด่นด้วยธรรมชาติอันงดงาม แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดัง และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัด , บ่อน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุทางธรรมชาติ , ที่พักแบบเรียวกัง รวมถึงมีกิจกรรมเดินป่าและภูเขา สกีรีสอร์ท เป็นต้น ใช้เวลาในการเดินทางจากโตเกียวเพียง 1ชั่วโมง ด้วยรถไฟชินคันเซ็น ลองมาดูกันว่า 10 สถานที่ท่องเที่ยวกุนมะที่ไม่ควรพลาด มีที่ไหนบ้าง
1. คุซัตสึ ออนเซ็น (Kusatsu Onsen)

คุซัตสึ ออนเซ็น ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล น้ำพุร้อนที่นี่มีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคและบำรุงผิวพรรณ จุดเด่นของที่นี่คือ ‘ยูบาทาเกะ’ ลานกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีน้ำพุร้อนไหลผ่านที่ปล่อยไอน้ำลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและการแสดง ‘ยูโมมิ’ การกวนน้ำแร่แบบดั้งเดิมที่จัดแสดงวันละหลายรอบ ไฮไลท์ของที่นี่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาลองกันทุกคนนั่นคือ ‘ไข่ออนเซ็นทามาโกะ’ (ไข่ต้มในน้ำพุร้อน) นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติและบ่อออนเซ็นแช่เท้าฟรีที่กระจายอยู่รอบเมือง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายและสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Naganohara-Kusatsuguchi นั่งรถบัสไปคุซัตสึประมาณ 25 นาที
2. อิคาโฮะ ออนเซ็น (Ikaho Onsen)

อิคาโฮะ ออนเซ็น เป็นอีกหนึ่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกุนมะ จุดเด่นคือบันไดหินยาว 365 ขั้น ที่เชื่อมต่อกับอาคารร้านค้าและออนเซ็น น้ำพุร้อนที่นี่มีแร่ธาตุเหล็กสูง ทำให้น้ำพุของที่นี่มีสีน้ำตาลแดง ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงสุขภาพผิว ผู้มาเยือนสามารถเลือกพักในเรียวกังดั้งเดิม หรือแช่ออนเซ็นกลางแจ้งที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถชมศาลเจ้าอิคาโฮะที่ตั้งอยู่บนยอดบันได และพลาดไม่ได้กับออนเซ็นมันจู หรือซาลาเปาญี่ปุ่นไส้ถั่วแดงกวน ที่ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดจากที่นี่
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Shibukawa นั่งรถบัสไปอิคาโฮะประมาณ 25 นาที
3. มินาคามิ ออนเซ็น (Minakami Onsen)

มินาคามิ ออนเซ็น ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่สวยงาม น้ำพุร้อนที่นี่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแคลเซียมฟอสเฟต มีสรรพคุณในการรักษาแผลภายนอกร่างกาย อาทิ แผลฟกช้ำ , แผลไฟไหม้ , แผลโดนบาด ช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะที่อบอวลไปด้วยไอน้ำ ในฤดูร้อนที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวผจญภัยที่สำคัญ มีกิจกรรมให้เลือกมากมาย อาทิ ล่องแก่ง , โรยตัวจากหน้าผา , เดินป่าบริเวณโดยรอบ
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถบัสไปยังมินาคามิประมาณ 30 นาที
4. ทาคารางาวะ ออนเซ็น (Takaragawa Onsen)

ทาคารางาวะ ออนเซ็นเป็นที่รู้จักในฐานะออนเซ็นกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาอันสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งขนาดใหญ่หลายบ่อที่สร้างติดกับแม่น้ำทาคารางาวะ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศสงบและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัวที่ต้องการประสบการณ์อันอบอุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถที่จะแช่ออนเซ็นท่ามกลางบรรยากาศหิมะโปรยปราย ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถบัสไปยังทาคารางาวะประมาณ 60 นาที ระหว่างทางจะผ่านสถานี Minakami และ Takaragawa Iriguchi โดยจะมีรถรับส่งไปยัง Takaragawa Onsen Osenkaku ฟรี
5. อุทยานแห่งชาติโอเซะ (Oze National Park)

โอเซะเป็นอุทยานแห่งชาติ มีพื้นที่ชุ่มน้ำโอเซะกาฮาระและบึงโอเซะนุมะ ที่เกิดจากการก่อตัวในยุคน้ำแข็งที่มีอายุมากกว่า 10,000 ปี มีทุ่งหญ้าและพืชพรรณนานาชนิด เหมาะสำหรับนักเดินป่าโดยแท้ ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกมิซุบาโชสีขาว (ลักษณะของต้นนี้จะคล้ายกับต้นหน้าวัว ขึ้นอยู่ในที่ที่มีน้ำเจิ่งนองหรือที่ชื้นแฉะ) ในฤดูร้อนจะปกคลุมไปด้วยดอกคอตตอนเซดจ์และดอกเดย์ลิลลี่ ในฤดูใบไม้ร่วงจะพบกับใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มสีแดงเต็มไปหมด ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่ดังกล่าวจะเต็มไปด้วยหิมะ เหมาะแก่การมาเล่นสกี อุทยานแห่งชาติโอเซะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไปตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถบัสไปยังโทคุระ/ โอชิมิซุ (สายเดินป่า) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือไปยังสกีรีสอร์ทในฤดูหนาว จากสถานี โอเซะ คาตาชินะ มีรถรับส่งไปลานสกีคาตาชินะ ฟรี
6. ทานิงาวะดาเคะ โรปเวย์ (Tanigawadake Ropeway)

ทริปปีนเขา ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อชมความงามของทานิงาวะดาเคะ เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเยือนภูเขาทานิงาวะดาเคะ ที่นี่มีความสูงถึง 1,977 เมตร ซึ่งการขึ้นกระเช้าลอยฟ้านอกจากจะทำให้รู้สึกตื่นเต้นแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มด่ำกับความงามที่แตกต่างในแต่ละฤดูกาล เช่น ในฤดูใบไม้ร่วงจะมองเห็นวิวภูเขากลายเป็นสีส้ม สีแดง จากใบไม้เปลี่ยนสีอยู่เต็มไปหมด ส่วนในฤดูหนาวทุกพื้นที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและเป็นแหล่งเล่นสกียอดนิยม พร้อมมุมถ่ายรูปในรูปแบบ 360 องศาบนยอดเขา
การเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถบัส Minakami Line ลงป้ายสุดท้าย Tanigawadake Ropeway ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
7. อิจิชิโนะ คุราซาวา ทานิงาวะดาเคะ (Ichino Kurasawa Tanigawadake)

อิจิชิโนะ คุราซาวา เป็นเส้นทางในการเดินป่าของหุบเขาทานิงาวะดาเคะ ซึ่งมีจุดชมวิวที่สวยงาม มีเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสำหรับนักเดินเขาทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ซึ่งเหมาะกับการเดินป่าและปีนเขาเป็นอย่างมาก โดยเส้นทางจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ไปถึงเคเบิ้ลคาร์ด้านบนแล้วเดินต่ออีก 2 ชั่วโมง เพื่อไปพิชิตยอดเขาทานิงาวะดาเคะ สำหรับใครที่อยากขึ้นไปแบบสบายกว่าหน่อย ก็สามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์มาจุดแรกก่อนที่จะเดินต่อบนเส้นทางเดินเขาได้ ใครที่ชื่นชอบการเดินสำรวจธรรมชาติและความงามจะต้องห้ามพลาดกับทริปนี้
การเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถบัส Minakami Line ลงป้ายสุดท้าย Tanigawadake Ropeway ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
8. ยามะชิน ฟาร์มสเตย์ (Yamashin Farmstay)

ฟาร์มสเตย์ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักในบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ใช้ชีวิตในแบบคนชนบทญี่ปุ่น นอนบนเสื่อทาทามิ ฟูกฟุตง(ฟูกนอนแบบญี่ปุ่น) ร่วมรับประทานอาหารท้องถิ่นที่มีผักที่ได้จากการปลูกและเก็บกินเองเป็นวัตถุดิบบนจานอาหาร ภายในฟาร์มยังมีกิจกรรมการเกษตรต่างๆ เช่น การเก็บผัก , ตกปลา , การทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และการนั่งรถไถชมฟาร์ม ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสามารถไปชมความงามของทะเลสาบทาซาวาโกะที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักได้ด้วย
การเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถแท็กซี่ ใช้เวลา 25 นาที (จะต้องจองที่พักล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์)
9. ปราสาทสก็อตแลนด์ (Lockheart Castle)

ปราสาทสก็อตแลนด์ (Lockhart) เดิมที่เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นใน Edinburgh (เอดินบะระ) ในปีค.ศ. 1829 ก่อนที่จะถูกรื้อถอนและขนย้ายมาก่อสร้างขึ้นใหม่ที่ทาคายามะในกุนมะในปีค.ศ. 1993 โดยชายที่มีชื่อว่า Masahiko Tsugawa ซึ่งใช้ระยะเวลา 4 ปี ในการขนย้ายและประกอบขึ้นมาใหม่ ภายในปราสาทมีการจัดแสดงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์ยุโรป มีสวนดอกไม้รายล้อมปราสาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดเพื่อถ่ายรูปในสไตล์ยุโรปโบราณได้ ที่นี่นับเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับถ่ายภาพแต่งงานและถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง นอกจากนี้ยังกิจกรรมไขปริศนาและเวิร์กช็อปต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ
การเดินทาง : จากสถานี Numata นั่งรถบัสประมาณ 20 นาที ก็จะถึงปราสาทสก็อตแลนด์
10. วัดดารุมะ (Shorinzan Darumaji)

วัดโชรินซัง ดารุมะจิ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในฐานะต้นกำเนิดของตุ๊กตาดารุมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องรางนำโชคของญี่ปุ่น สร้างขึ้นมาในปีค.ศ. 1697 ภายในวัดมีการจัดแสดงตุ๊กตาดารุมะหลากหลายรูปแบบ มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อตุ๊กตาดารุมะเพื่อความเป็นสิริมงคล ทุกวันที่ 6-7 มกราคมของทุกปี ทางวัดจะมีการจัดงาน ‘นานะคุสะไทไซดารุมะอิจิ’ (Nanakusataisai-Darumaichi) ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมางานได้มากกว่า 2 แสนคน ส่วนใหญ่จะเดินทางมายังวัดเพื่อขอพร เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยให้สมหวังและโชคดีตลอดทั้งปี
การเดินทาง : จากสถานีสถานี Takasaki นั่งรถบัสสาย Gururin Shorinzan มาลงที่ป้าย Shorinzan Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จังหวัดกุนมะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การแช่ออนเซ็นที่ได้รับการยอมรับว่ามีแหล่งน้ำแร่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ได้แช่น้ำแร่พร้อมไปกับได้ชื่นชมธรรมชาติแวดล้อมอันสวยงาม ความงามที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยการเข้าพักแบบฟาร์มสเตย์ ผู้ที่มาเยือนที่นี่สามารถเดินทางได้แบบสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ สำหรับใครที่จะมาพักค้างคืน แนะนำให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้าด้วยการตรวจสอบตารางเวลารถไฟ รถบัสและจองที่พักให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง เพื่อการท่องเที่ยวที่ราบรื่นตลอดทริป
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ