มะเร็งปอด ทำลายชีวิต กัดกินรายได้
มะเร็งปอด ภัยร้ายคุกคามเงินเก็บมาทั้งชีวิต
มะเร็งปอด เป็นโรคอันดับต้นๆ ของโลกที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมากโดยสาเหตุเกิดจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มักรู้ตัวหลังมีอาการลุกลาม ไปแล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดเป็นจำนวนมาก
ถ้าสามารถตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่เนิ้นๆ จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยความทันสมัยในการรักษา และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ
ทำให้การรักษามะเร็งปอดเป็นไปได้ง่ายแต่ก็แลกมาด้วย ค่าใช้จ่ายจำนวนมากเช่นกัน แต่ถ้าเรามีประกันเรามาสารถรับการรักษาได้สบายๆ โดยไม่กระทบเงินเก็บเลยสักบาท แม้จะตรวจเจอเพียงระยะเริ่มต้นก็ตาม
สามารถปรึกษาและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส (TPIS)
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ก่อนอื่นเราต้องดูแลและตรวจสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของตัวเองด้วย
มะเร็งปอด มีวิธีลดเสี่ยงอย่างไร
- ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีวิตามินโดยเฉพาะวิตามินเอ
- พยายามอยู่ในพื้นที่อากาศถ่ายเทห่างไกลจากมลพิษ ให้ปอดได้รับอากาศบริสุทธิ์
- ไม่สูบบุหรี่ สิ่งเสพติดให้โทษ หรือใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพสูดดม สาเหตุการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งได้
- ตรวจเช็กร่างกายเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับปอด เช่น ถุงลมโป่งพอง วัญโรค
มะเร็งปอดเช็กอาการเบื้องต้น
- เจ็บหน้าอก
- ปอดติดเชื้อบ่อย
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เสียงแหบ เสียงเปลี่ยน
- หายใจสั้น มีเสียงหวีดๆ
- หายใจลำบากหอบเหนื่อย
- ไอเรื้อรัง มีเสมหะปดเลือด
- น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ
*หากมีอาการตามที่กล่าวด้านบนนี้ควรไปตรวจโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากตรวจสอบอาการด้วยตนเองเบื้องต้นแล้วต้องการพบแพทย์ TPIS จะมาบอกวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดของคุณหมอ คร่าวๆ กัน โดยบางโรงพยาบาลจะมีบริการตรวจมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น ด้วยการเอกซเรย์รังสีต่ำ (low-dose computed tomography, LDCT)
ซึ่งผลที่ได้จะละเอียดมากกว่าการเอกซเรย์ธรรมดาและในปัจจุบันทางคลินิกสามารถตรวจคัดกรอง มะเร็งปอดระยะเริ่มต้นด้วยการ ถ่ายภาพรังสีทรวงอกและทำซีทีสแกน
หากพบสิ่งผิดปกติ สิ่งต่อไปที่หมอจะทำเพื่อยืนยันการวินิจฉัย คือ การเก็บชิ้นเนื้อปอดออกมาตรวจ โดยจะส่องกล้องหลอดลมเพื่อเก็บชิ้นเนื้อ หรือเจาะชิ้นเนื้อโดยใช้ผลจากซีทีสแกน นำทางการเก็บชิ้นเนื้อ โดยมีวิธีดังนี้
1. ตัดชิ้นเนื้อเพื่อวิเคราะห์ (biopsy)
2.ใช้เข็มขนาดเล็กตัดชิ้นเนื้อ (fine-needle aspiration)
3.ส่องกล้องตรวจภายในหลอดลม (bronchoscopy)
4.ใช้เข็มเจาะช่องเยื่อหุ้มปอดแทงผ่านผนังทรวงอก (thoracentesis)
5.ตรวจช่องกลางทรวงอกโดยการส่องกล้อง (mediastinoscopy)
6.ตรวจช่องทรวงอกโดยการส่องกล้อง (thoracoscopy)
7.ตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) และตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI): เพื่อหาตำแหน่งและขนาดของก้อนเนื้อบริเวณปอด
8.ตรวจด้วยเครื่อง PET scan (positron emission tomography scan): โดยฉีดน้ำตาลทางเส้นเลือด เซลล์มะเร็งปอดจะดูดซึมน้ำตาลชนิดนี้ไว้ทำให้เซลล์มะเร็งเรืองแสง
มะเร็งปอดอาจตรวจพบได้จากการถ่ายภาพรังสีทรวงอกและการทำซีทีสแกน
เพื่อทำการยืนยันการวินิจฉัย หมอจะทำการตัดชิ้นเนื้อปอดออกมาตรวจ การตัดชิ้นเนื้อปอดส่วนใหญ่จะทำโดยส่องกล้องหลอดลมเพื่อเก็บชิ้น เนื้อหรือการเจาะชิ้นเนื้อโดยใช้ผลตรวจซีทีช่วยนำทางการรักษา
หากทราบว่าเป็นโรคมะเร็งปอดแม้จะเป็นเพียงระยะไม่ลุกลาม แต่ถ้าทำประกันมะเร็งไว้หลังจาก (90วัน นับตั้งแต่วันเริ่มคุ้มครอง) สามารถรับผลประโยชน์จากประกันมะเร็งที่ได้ทำไว้ทันทีแถมยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
แต่ในปัจจุบันโรคมะเร็งส่วนใหญ่ยังไม่มีวิธีป้องกันโดยสมบูรณ์ และในประเทศที่รายได้ประชากรต่ำ การตรวจเช็ก การป้องกัน การวินิจฉัย การรักษา และการดูแลผู้ป่วยเป็นไปได้ยากเนื่องจากโรคมะเร็งมักจะถูกพบในระยะลุกลาม (ขั้นที่ 3 – 4) มากกว่าครึ่ง ทำให้โอกาสเสียชีวิตจากโรคมะเร็งสูง
เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่รายได้ประชากรสูงการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง จึงเป็นไปได้ยาก ต้องการความร่วมมือกับทุกส่วน ทั้งรัฐบาล และประชาชนด้วย ก่อนที่จะเสียทรัพย์สินเงินจำนวนมาก ไปกับการรักษา เราควรหันมาดูแลสุขภาพหมั่นตรวจเช็กร่างกาย รู้ทันโรคก่อนที่จะลุกลามจนสายเกินแก้ และมีแผนสำรอง ในการรักษาก่อนตรวจพบโรคโดยควรมีประกันมารองรับค่าใช้จ่ายไว้ก่อนจะดีกว่า