หม้อน้ำรถยนต์หลักการบำรุงรักษา สำคัญกับรถอย่างไร

หม้อน้ำรถยนต์จัดว่าเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป หรือที่เรารู้จักกันก็คือรถที่ใช้น้ำมัน ถึงแม้ว่าหม้อน้ำเป็นส่วนสำคัญแต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่หลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจทั้งที่ความจริงแล้วหลายครั้งหม้อน้ำนี่แหละที่ทำให้รถดับกลางทางเนื่องจากความร้อนสูงกว่าปกติ แม้ว่าศูนย์บริการจะช่วยตรวจเช็คสภาพรถในทุกรายการให้คุณได้ แต่การตรวจเช็คและบำรุงรักษาหม้อน้ำก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่เจ้าของรถก็สามารถทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งช่าง ซึ่งวันนี้เรามีคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการบำรุงรักษาหม้อน้ำมาฝากครับ
หม้อน้ำรถยนต์สำคัญยังไง
ความสำคัญอย่างแรกของหม้อน้ำรถยนต์คือช่วยควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ โดยในระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงาน หม้อน้ำเป็นตัวทำหน้าที่ถ่ายเทความร้อนจากเครื่องยนต์ออกไปยังอากาศภายนอกโดยใช้น้ำหล่อเย็น (Coolant) เป็นตัวกลาง น้ำหล่อเย็นจะไหลผ่านระบบระบายความร้อนเพื่อพาความร้อนออกจากเครื่องยนต์ แล้วส่งไปยังหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนก่อนกลับเข้าสู่เครื่องยนต์อีกครั้ง
หากการทำงานของหม้อน้ำและเครื่องยนต์เป็นไปตามปกติ จะช่วยป้องกันเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดความร้อนสูงเกินไป หรือที่เรียกว่าอาการ Overheating หากเครื่องยนต์ร้อนเกินไปอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ปะเก็นฝาสูบไหม้ , ฝาสูบโก่ง , เครื่องยนต์ดับกะทันหัน การทำงานของหม้อน้ำที่มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ ส่งผลให้อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ยาวนานขึ้น เมื่อเครื่องยนต์ทำงานด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมยังส่งผลทางอ้อมอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือช่วยเรื่องประหยัดน้ำมัน

เมื่อไหร่ที่ควรเช็คหม้อน้ำรถยนต์
แม้ว่าหม้อน้ำจะเป็นอุปกรณ์ที่ทนทานและสามารถใช้งานได้ยาวนาน แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมอาจเกิดปัญหาที่ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้ ดังนั้นควรหมั่นตรวจสอบหม้อน้ำเป็นประจำ โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์จากหลายที่แนะนำตรงกันว่าให้ตรวจเช็คหม้อน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมถึงต้องเช็คก่อนเดินทางไกล โดยหากสังเกตพบสัญญาณต่อไปนี้ เป็นไปได้ว่าหม้อน้ำกำลังมีปัญหาและต้องการการแก้ไขโดยด่วน
• หากมาตรวัดอุณหภูมิบนหน้าปัดรถแสดงค่าที่สูงกว่าปกติ หรือมีไฟแจ้งเตือนระบบระบายความร้อน อาจเป็นสัญญาณว่าหม้อน้ำมีปัญหา หรือในกรณีที่รถไม่มีเกจแสดงความร้อน อาจสังเกตได้ในกรณีเครื่องยนต์ร้อนแม้ขับในระยะทางสั้น ๆ โดยที่ปกติไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าหม้อน้ำกำลังมีปัญหา นอกจากนี้หากพบว่ามีควันสีขาวหรือไอร้อนออกจากฝากระโปรง อาจหมายถึงหม้อน้ำรั่วหรือระบบระบายความร้อนทำงานผิดปกติ ควรรีบตรวจสอบทันที
• เมื่อสังเกตพบว่าปริมาณน้ำหล่อเย็นลดลงเร็วกว่าปกติ อาจเกิดจากการรั่วซึมของหม้อน้ำหรือระบบท่อระบายความร้อน การตรวจเช็คเป็นประจำจะช่วยให้จัดการปัญหานี้ได้ในทันที
• หากมีคราบสนิมหรือตะกรันเกิดขึ้นที่หม้อน้ำ อาจเป็นสัญญาณว่าเกิดการอุดตันภายในระบบ หรือมีการรั่วซึม
• สุดท้ายให้สังเกตสีของน้ำหล่อเย็น โดยควรมีสีใส หากมีสีคล้ำ ขุ่น หรือมีกลิ่นไหม้ อาจบ่งบอกว่ามีสิ่งสกปรกปนเปื้อนหรือมีการเผาไหม้ผิดปกติภายในเครื่องยนต์

วิธีบำรุงรักษาหม้อน้ำ
เพื่อให้หม้อน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ ควรดูแลและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ อันดับแรกควรเช็คระดับน้ำหล่อเย็นทุกสัปดาห์ โดยดูจากถังพักน้ำหล่อเย็น และเติมน้ำหล่อเย็นเมื่อพบว่าระดับลดลงต่ำกว่าขีดกำหนด ควรเติมน้ำหล่อเย็นให้เพียงพออยู่เสมอ เพราะหากปล่อยให้น้ำในหม้อน้ำแห้ง จะเป็นเหตุให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปและอาจเกิดความเสียหายรุนแรงได้ นอกจากนี้ การเลือกน้ำหล่อเย็นก็มีความสำคัญ โดยควรใช้น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ที่มีคุณสมบัติป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ห้ามใช้น้ำเปล่าเพราะอาจทำให้เกิดตะกรันสะสมภายในหม้อน้ำ
อีกวิธีที่เราขอแนะนำคือการทำความสะอาดหม้อน้ำเป็นระยะ โดยควรล้างหม้อน้ำทุก ๆ 20, 000 – 40,000 กิโลเมตร หรืออย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อกำจัดคราบสนิมและสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันระบบระบายความร้อน รวมถึงตรวจสอบท่อยางหม้อน้ำว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ และเป็นการเช็คฝาหม้อน้ำว่าปิดสนิท มีแรงดันปกติ หากพบรอยรั่วหรือชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ทันที
การตรวจเช็คและบำรุงรักษาหม้อน้ำรถยนต์ นอกจากช่วยยืดอายุหม้อน้ำแล้ว ยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือรถคุณควรมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนอกเหนือจากประกันภาคบังคับ เพราะการทำประกันรถยนต์จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมเมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง โดยคุ้มครองทั้งตัวคุณ รถคุณ รวมไปถึงการชดเชยให้คู่กรณี ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกการเดินทาง
บทความ รถ 10 ปี รถใช้งานดีอยู่ จะเลือกใช้ต่อหรือตัดใจขายเปลี่ยนรถใหม่ดี