รถครอบครัว 7 ที่นั่ง suv ppv หรือ mpv ต่างกันยังไง
รถครอบครัว 7 ที่นั่งเป็นรถยอดนิยมสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ สามารถที่จะบรรทุกผู้โดยสารได้มากสุดถึง 7 คน และมีพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระที่เพียงพอสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ ภายในกว้าง นั่งได้สบายไม่อึดอัด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ, ช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่มือถือ, เครื่องเล่นเพลง รถครอบครัวบางรุ่นมีการติดตั้งทีวีให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ดังนั้นรถครอบครัวจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ตอบโจทย์ชีวิตครอบครัวและการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างครอบคลุม .. แต่รถครอบครัวก็มีหลากหลายแบบ บทความนี้ขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถครอบครัวแบบ SUV , PPV และ MPV แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่างรถ SUV, PPV และ MPV
SUV (Sport Utility Vehicle), PPV (Pickup-based Passenger Vehicle) และ MPV (Multi-Purpose Vehicle) เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการจำแนกประเภทของรถยนต์ทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้นตามการออกแบบ โครงสร้างและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งยังมีหลายคนที่ยังจำแนกประเภทของรถทั้ง 3 แบบ ‘ไม่ออก’ และเหมารวมเรียกรถทั้ง 3 แบบ เป็นรถครอบครัว 7 ที่นั่งเหมือนกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วในรถบางรุ่นอาจนั่งได้แค่ 4 ที่นั่งเท่านั้น โดยในวันนี้จะมาอธิบายถึงความแตกต่างของรถทั้ง 3 ประเภท ว่าเป็นแบบใดบ้าง ไปดูกัน
1. SUV (รถอเนกประสงค์)
2. PPV (รถยนต์อเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานโครงสร้างจากรถกระบะ)
3. MPV (รถอเนกประสงค์)
ประโยชน์ของรถ SUV, PPV และ MPV
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ นั่นหมายความว่า รถ SUV, PPV และ MPV ประโยชน์ที่แท้จริงคือสามารถที่จุผู้โดยสารได้หลายท่านและขนสิ่งของจำนวนมากได้ นอกจากนี้ในบรรดารถทั้ง 3 ประเภท ยังสามารถใช้ลุยไปในพื้นที่ออฟโรดและในเมืองได้ ภายในถูกออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานตามความเหมาะสมได้ เช่น การปรับเปลี่ยนเบาะให้สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสิ่งของ หรือจะพับเพียงแค่บางส่วนให้สามารถขนสิ่งของและมีที่นั่งเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารได้ ในรถบางรุ่นของ PPV มีการปรับเปลี่ยนสภาพให้สามารถลุยได้ทุกเส้นทางเพราะมีขนาดเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง อย่างการปรับเปลี่ยนไปใส่ล้อยาง MUT เพื่อใช้ลุยทางออฟโรด เป็นต้น
ข้อดีข้อเสียของรถ SUV, PPV และ MPV
สำหรับข้อเสียของรถทั้ง 3 ประเภท แทบจะไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายและบำรุงรักษามากกว่า เพราะรถทั้ง 3 ประเภท มีราคาสูง มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา, ค่าภาษีประจำปี, ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ค่อนข้างสูงกว่ารถเก๋งทั่ว ๆ ไป ซึ่งก็แลกมากับสมรรถนะที่เยี่ยมยอด การใช้งานที่หลากหลายกว่าก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป แต่ก็จะมีรถ PPV ที่มีความสูงกว่าใครเพื่อน ทำให้การขับรถบนพื้นที่ราบเรียบ การเข้าโค้งด้วยความเร็ว การตกหลุม ลงเนิน ขึ้นเนิน มีปัญหาเรื่องของการทรงตัว จึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบป้องกันและความปลอดภัยมากกว่ารถรุ่นอื่น ๆ ในขณะที่รถ MPV อาจมีปัญหาในเรื่องของการเข้าจอดรถในพื้นที่จำกัด เช่น การจำกัดความสูงของรถ อาคารจอดรถที่มีพื้นที่แคบ เป็นต้น เนื่องจากรถ MPV เป็นรถที่มีโครงสร้างใหญ่และยาว ทำให้การจอดในรถในพื้นที่แคบเป็นไปด้วยความลำบาก
การเลือกรถ SUV, PPV และ MPV
การเลือกใช้รถระหว่าง SUV, PPV และ MPV ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละบุคคล คำแนะนำต่อไปนี้เป็นเหตุผลบางส่วนที่ใช้พิจารณาในการเลือกใช้งานรถทั้ง 3 ประเภท
1. วัตถุประสงค์และการใช้งาน
2. การขับขี่และความสะดวกสบาย
3. ความปลอดภัยและเทคโนโลยี
หากต้องเลือกใช้งานรถรุ่นใดรุ่นหนึ่งจากทั้ง 3 รุ่น ขอแนะนำให้เลือกเทคโนโลยีและความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะรถทั้ง 3 ประเภท เป็นรถสำหรับครอบครัว ดังนั้นความปลอดภัยจึงมาเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ABS, ถุงลมนิรภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านหน้า ด้านล่างและด้านข้าง, ระบบกล้องส่องหน้าและหลัง, เซนเซอร์รอบคัน, ระบบมองในที่อับสายตา, ระบบการทรงตัวเมื่อรถลื่นไถล, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และอื่น ๆ ในความเป็นจริงแล้วรถเอนกประสงค์ทั้ง 3 รุ่น ได้รับความนิยมเพื่อเดินทางท่องเที่ยวไปตามภูมิประเทศที่เป็นทางลาดชันจึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด ทั้ง SUV , PPV ส่วน MPV อาจจะเห็นน้อยกว่าทั้ง 2 รุ่นก่อนหน้าเพราะมีราคาที่สูงกว่า
4. ความประหยัดในการใช้พลังงาน
ไม่ว่าจะเป็นรถ SUV, PPV, และ MPV ผู้ใช้รถควรพิจารณาถึงประสิทธิภาพของการใช้งานว่ามีความสอดคล้องกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่ เพราะรถทั้ง 3 ประเภท มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่ต่างกัน นอกจากนี้ควรพิจารณาในเรื่องของค่าใช้จ่ายและบริการหลังการขาย เช่น ค่าประกันรถ, ศูนย์บริการ, ราคาอะไหล่, ค่าแรง หรือแม้แต่อะไหล่ทดแทนต่าง ๆ น้ำมันเชื้อเพลิงและการบริหารจัดการพลังงานของรถ
โดยสรุป ไม่ว่าจะเป็นรถ SUV, PPV หรือ MPV ต่างก็เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะคุณสมบัติในการบรรทุกผู้โดยสารและสิ่งของสัมภาระที่จุได้มากกว่ารถเก๋ง อีกทั้งสิ่งของที่บรรทุกหรือคนจะไม่เปียกฝน ตากแดดเหมือนรถกระบะ เน้นความสะดวกสบายและการใช้งานเป็นหลัก ส่วนความแตกต่างด้านอื่น ๆ จะมีในส่วนของรูปทรง, ราคา, จำนวนผู้โดยสารในรถบางรุ่น และสมรรถนะของรถแต่ละประเภท หากจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้งาน
สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมคำแนะนำที่ให้ไว้เพื่อพิจารณาและเลือกซื้อรถเอนกประสงค์ได้ถูกใจ อย่าลืมซื้อประกันภัยรถยนต์กับ TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส โบรกเกอร์ประกันภัย พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านประกันรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์