ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันชั้น 2+ ดี?
สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนคงไม่มีใครไม่รู้จักประกันรถยนต์ แต่เรารู้กันหรือไม่ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต่างกันอย่างไร ทำไมค่าเบี้ยถึงได้ต่างกันมาก แล้วเราล่ะควรซื้อประกันรถยนต์แบบไหนถึงคุ้มค่าและเหมาะสมกับเรามากที่สุด วันนี้ TPIS จะมาให้คำตอบกับทุกคนกันครับ
ขอพูดถึงประกันชั้น 1 ก่อนแล้วกัน อย่างแรกที่เราควรรู้ก่อนเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้น คือ “ปีรถ” เพราะประกันรถยนต์ชั้น 1 มีข้อจำกัดในเรื่องของปีรถห้ามเกิน 7 ปี แต่ในบางที่อาจจะให้ได้นานสุดถึง 15 ปี แบบนี้เราก็ต้องไปดูกันในเงื่อนไขความคุ้มครองเพื่อเปรียบเทียบกันแล้วแหละ ซึ่งสามารถขอข้อมูลปรึกษาและเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ฟรี ที่ www.tripetchinsurance.com หรือโทร 02-021-4192 ได้ในเวลาทำการนะครับ
แล้วเรื่องอื่นๆ ที่ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แตกต่างกันล่ะมีอะไรบ้าง
ประกันรถยนต์ ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะเป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ทั้งที่มีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี ทั้ง รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ชนกระถาง ชนรถ ชนรั้ว หรือเฉี่ยวชนคนเดินเท้า เป็นต้น ซึ่งจะเหมาะกับมือใหม่ป้ายแดง ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่มาก แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นประกันจะคุ้มครองมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับเบี้ยประกันด้วยนะ
ความคุ้มครองประกันชั้น 1
- คุ้มครองชีวิตทั้งผู้ขับขี่ และคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายรถยนต์ผู้ขับขี่และคู่กรณี
- คุ้มครองรถยนต์ แม้ไม่มีคู่กรณี (แต่ความเสียหายต้องเกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น)
- คุ้มครองค่ารักษา ค่าผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์ ทั้งหมด ทั้งผู้ขับขี่ คู่กรณี และผู้โดยสาร
- คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- ค่าประกันตัวจากการถูกจับคดีอาญาที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
ประกันรถยนต์ชั้น 2+
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะเป็นประกันรถยนต์ที่คุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ที่สุด แต่หลักๆ จะแตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 1 เล็กน้อยโดยประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคงคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม และคุ้มครองอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น เช่น ชนรถยนต์ ชนรถจักรยานยนต์ ชนรถกระบะ หรือเฉี่ยวชนคนเดินเท้า เป็นต้น แต่จะคุ้มครองมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับทุนประกันที่เราทำไว้นะครับ
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 2+
- คุ้มครองชีวิตทั้งผู้ขับขี่ และคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายรถยนต์ผู้ขับขี่และคู่กรณี
- คุ้มครองค่ารักษา ค่าผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์ ทั้งหมด ทั้งผู้ขับขี่ คู่กรณี และผู้โดยสาร
- คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- ค่าประกันตัวการถูกจับคดีอาญาจากอุบัติเหตุ
จากตารางที่เห็นจะสังเกตุได้ว่าประกันชั้น 1 จะต่างกับประกันชั้น 2 ตรงที่ประกันจะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดเอง ว่ากันง่ายๆคือ ไม่คุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีนั้นเอง
อ้างอิงจาก www.tripetchinsurance.com/voluntary-motor-insurance
วิธีเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะกับเรา
การเลือกประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ TPIS อยากให้คำนวณ ถึงความจำเป็นของเราเป็นอย่างแรก ว่าเราใช้รถบ่อยไหม ใช้รถทำอะไร
หากเราเป็นมือใหม่เพิ่งออกรถป้ายแดงประสบการณ์ไม่มาก แต่ใช้รถบ่อย มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนสูงไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน หรือในสถานที่ปิด เราก็ควรให้ประกันชั้น 1 เป็นตัวเลือกในการซื้อลำดับแรก เพราะ สามารถคุ้มครองได้ครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่ คู่กรณี และรถยนต์ของเรา อย่างน้อยเราจะได้อุ่นใจว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเราจะไม่ต้องผ่อนซากรถเปล่า หรือเราเกิดบาดเจ็บขึ้นมาจะได้ไม่ลำบากเรื่องค่ารักษาอีกด้วย แต่ถ้าเรามีรถที่อายุเยอะแล้วทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ หรือ เรามีความมั่นใจว่าเชี่ยวชาญในการขับขี่แล้ว และยังใช้รถบ่อยอยู่ เราก็สามารถเลือกเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ แทนประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้แถมยังประหยัดค่าเบี้ยอีกด้วย แต่อย่าลืมว่าวิธีการใช้รถของเราส่งผลถึงค่าเบี้ยประกันด้วยเช่นกันนะ ยกตัวอย่างถ้าเราประกอบอาชีพขับรถรับจ้างเบี้ยประกันก็จะแพงขึ้นกว่าปกตินั้นเอง
ตัวอย่างการเปรียบเทียบประเภทประกันและความคุ้มครองประกันรถยนต์
ทำไมประกันชั้น1 กับ 2+ ถึงราคาต่างกัน
ราคาประกันรถยนต์นั้นแตกต่างกันนั้นมีหลายปัจจัยนอกจากการใช้รถที่กล่าวไปข้างต้น แล้วความเชี่ยวชาญของผู้ขับขี่ ประวัติการเคลม กล้องติดรถ การเลือกประกันรถยนต์ที่มีค่าเสียหายส่วนแรก(Deductible) เลือกประกันรถยนต์ซ่อมอู่ ก็จะมีผลต่อค่าเบี้ยเช่นกัน แต่ถ้าหากเราไม่อยากยุ่งยากกับการต้องมานั่งเลือก นั่งเปรียบเทียบประกันรถยนต์ทุกเจ้า ทุกประเภท เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่ไหนดี ที่ไหนถูก ที่ไหนแพง ไหนจะเรื่องกล้องติดรถ เรื่องระบุคนขับ จะได้ลดค่าเบี้ยได้ไหม ลดได้เท่าไหร่ แนะนำให้ลองไปเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ ซึ่งสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ความคุ้มครอง และเงื่อนไขต่างๆ ได้ง่ายๆ ไม่เสียเวลา
สุดท้ายนี้ TPIS อยากให้ทุกคนดูความจำเป็น และความคุ้มค่าในการใช้ประกันของเราเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องทำประกันเกินความจำเป็น หากเรามีรถ 2คัน เราอาจจะเลือกทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 เฉพาะรถที่เราใช้ขับเป็นประจำ หรือทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ สำหรับรถที่ใช้ไม่บ่อยมากและอาจจะทำประกันชั้น 3 ให้กับรถคันที่ไม่ได้ขับหรือไม่ค่อยได้ใช้งานก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำประกันชั้น1 ให้รถทุกคันเสมอไป แต่สามารถไปมองหาประกัน ชั้น 2+ หรือ 3 แทนได้ หากมีข้อสงสัยต้องการพูดคุยสอบถามสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tripetchinsurance.com ด้วยความห่วงใยจาก TPIS
TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์
เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ ทั้งประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันมะเร็ง และประกันโรคร้ายแรง แถมยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน* สนใจสมัครประกันภัยกับตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
*ผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ