รถ 10 ปี รถใช้งานดีอยู่ จะเลือกใช้ต่อหรือตัดใจขายเปลี่ยนรถใหม่ดี

รถ 10 ปี รถใช้งานดีอยู่ จะเลือกใช้ต่อหรือตัดใจขายเปลี่ยนรถใหม่ดี

คงจะมีหลายคนที่เริ่มตั้งคำถามว่า “ถ้ารถคู่ใจเดินทางมาถึงอายุ 10 ปี จะทำอย่างไรต่อไปดี?” ควรใช้ต่อไป หรือเอาไปขายเพื่อซื้อรถคันใหม่? .. การตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพรถ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และความคุ้มค่าในระยะยาว บทความนี้จะช่วยคุณตัดสินใจและช่วยวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของการใช้รถเก่า หรือจะเลือกซื้อรถใหม่ แบบไหนดีกว่ากัน รวมถึงค่าใช้จ่ายและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวช้อง

รถ 10 ปี ยังใช้งานดีจริงหรือ

รถอายุ 10 ปี หลายคนอาจมองดูว่าเป็น รถแก่ เสื่อมสภาพ หากแต่สภาพดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคันเสมอไปหากรถนั้นได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ได้รับการตรวจเช็คตามระยะทาง , เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง , เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ , น้ำมันเฟืองท้าย , สายพาน และอื่น ๆ ตามคู่มือกำหนด รวมถึงผ่านการใช้งานไม่หนัก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้รถยังคงสภาพดี มีสมรรถนะที่ดี สามารถวิ่งได้เหมือนรถใหม่ สิ่งที่จะบอกได้ว่ารถเก่าของคุณยังคงใช้งานได้ดีหรือไม่ สามารถเช็คได้จาก

  • เครื่องยนต์และระบบเกียร์ หากไม่มีปัญหาร้ายแรง เช่น กินน้ำมันเครื่องมากผิดปกติ , เกียร์กระตุก , เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ แสดงว่ารถยังอยู่ในสภาพดี
  • ระบบช่วงล่างและเบรก ตรวจสอบว่าไม่มีเสียงดัง หรืออาการสั่นผิดปกติ ระบบเบรกยังใช้งานได้ดี
  • โครงสร้างตัวถัง หากไม่มีสนิมหรือการผุกร่อนรุนแรง แสดงว่ารถยังแข็งแรงพอใช้งานต่อไปได้
  • สมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ หากรถยังให้ความมั่นใจในการขับขี่ เช่น การเร่งแซงและการทรงตัว รถก็ยังสามารถใช้งานได้ดี

หากรถที่มีอายุ 10 ปี แล้วยังไม่แสดงอาการที่กล่าวมาข้างต้น ถือว่ายังมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง

ฤกษ์มงคลในการเจิมรถ-ออกรถ

ข้อดีของการใช้รถเก่า vs. การเปลี่ยนรถใหม่

ต่อไปจะเป็นการเปรียบเทียบข้อดีของการใช้รถเก่ากับข้อดีของการซื้อรถใหม่ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

ข้อดีของการใช้รถเก่า

  • ไม่มีภาระหนี้สิน เพราะผ่อนหมดแล้ว การใช้รถเก่าจึงทำให้เจ้าของรถไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มเติม
  • ค่าประกันภัยถูกกว่า รถเก่ามักมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่ารถใหม่
  • อะไหล่และค่าซ่อมถูกกว่ารถใหม่บางรุ่น โดยเฉพาะรถตลาดที่อะไหล่หาง่าย
  • อัตราราคาเริ่มจะเสื่อมช้าลง เมื่อเทียบกับรถใหม่ ภายหลังจากซื้อรถมาแล้ว คำนวณค่าเสื่อมราคาด้วยวิธีเส้นตรง

สมมติว่า

ราคารถใหม่: 1,000,000 บาท
ราคารถเก่า (5 ปี): 500,000 บาท
อายุการใช้งานที่คาดไว้: 10 ปี
มูลค่าซาก (Residual Value): 100,000 บาท

ค่าเสื่อมราคาต่อปี =ราคาซื้อ − มูลค่าซาก / อายุการใช้งาน

รถใหม่
1,000,000 − 100,000 / 10 = 90,000 บาท/ปี

รถเก่า (ใช้งานมาแล้ว 5 ปี เหลืออายุ 5 ปี)
500,000 − 100,000 / 5 =80,000 บาท/ปี

เปรียบเทียบ

  • รถใหม่จะมีค่าเสื่อมราคาสูงกว่าในแต่ละปี เพราะมูลค่าต้นทุนสูงกว่า
  • รถเก่าที่ราคาซื้อลดลงแล้วจะมีค่าเสื่อมราคาต่อปีลดลง

ข้อดีของการเปลี่ยนรถใหม่

  • รู้สึกปลอดภัยเพราะมีเทคโนโลยีและระบบที่ทันสมัยขึ้น รถใหม่มักจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เสมอ ทั้งนี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของรถ เช่น ระบบช่วยขับขี่ , ระบบความปลอดภัยที่ดีกว่า , ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ , กล้องมองรอบคัน , เซนเซอร์รอบคัน เป็นต้น
  • ประหยัดน้ำมันมากขึ้น รถใหม่จะให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่ารถเก่า เพราะประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ยังคงสมรรถนะดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของรถรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมันกว่ารถรุ่นเก่าด้วย
  • ลดปัญหาจุกจิก ไม่ต้องเสียเวลาซ่อมบำรุงบ่อยเหมือนรถเก่า

ค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณา ซ่อมบำรุงหรือผ่อนคันใหม่ อันไหนคุ้มกว่า

ค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณา ซ่อมบำรุงหรือผ่อนคันใหม่ อันไหนคุ้มกว่า

หากพิจารณาถึงค่าใช้จ่าย การซ่อมบำรุงรถเก่าอาจเป็นทางเลือกที่ประหยัดในระยะสั้น แต่หากต้องซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง หรือมีการซ่อมใหญ่กับส่วนสำคัญของรถ เช่น เครื่องยนต์ , เกียร์ แบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งนี้ค่าซ่อมจะสูงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอาการและปัญหาที่รถเก่าได้เผชิญ ในทางกลับกันการซื้อรถใหม่จะทำให้คุณต้องจ่ายค่าผ่อนรถเป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นภาระทางการเงินระยะยาว แต่ข้อดีคือรถใหม่ (ในระยะ 3 ปีแรก) จะได้รับการรับประกันและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงน้อยกว่ารถเก่า ซึ่งมีการกำหนดหัวข้อให้ทุกคนได้พิจารณาว่าจะซ่อมรถเก่าหรือซื้อรถใหม่ มีดังนี้

  • ค่าซ่อมบำรุงรายปี หากค่าซ่อมบำรุงสูงเกิน 50% ของราคารถในตลาด อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถ เช่น ค่าซ่อมเครื่องยนต์ , ค่าซ่อมเบรก , ค่าซ่อมเกียร์ เป็นต้น
  • หากเลือกซื้อรถใหม่ ต้องคิดถึงค่างวดที่ต้องจ่ายทุกเดือน ค่าน้ำมันรถหรือค่าเชื้อเพลิงอื่น เช่น ค่าไฟฟ้า รวมถึงดอกเบี้ยและค่าประกันภัยรายปี
  • ค่าน้ำมันและค่าประหยัดพลังงาน รถใหม่บางรุ่นประหยัดน้ำมันกว่ารถเก่าหลายเท่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนขายรถเก่าและซื้อรถใหม่

ก่อนที่จะตัดสินใจขายรถเก่าเพื่อซื้อรถใหม่ อยากให้พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

  • ราคาขายต่อของรถเก่า เป็นที่รู้กันดีว่าราคารถ 10 ปี ราคาอาจเหลือเพียง 10-20% ของราคาตอนซื้อมาใหม่ บางรุ่นอาจมีราคาต่ำกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่ารถรุ่นนั้นเป็นรถตลาดหรือไม่ ดังนั้นควรตรวจสอบราคากลางของรถรุ่นเดียวกันในตลาดเพื่อประกอบการตัดสินใจ
  • โปรโมชันรถใหม่ บางช่วงเวลาอาจมีโปรโมชันดอกเบี้ยต่ำหรือส่วนลดที่คุ้มค่ากว่า
  • ค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าจดทะเบียน , ค่าประกันภัย , ค่าภาษีรถยนต์ที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับรถใหม่
  • สถานะทางการเงิน หากสถานะทางการเงินของคุณยังดูดี การงานมั่นคงและยังสามารถที่จะผ่อนรถใหม่ต่อได้ สถานะการเงินจะไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าสภาพคล่องทางการเงินไม่ดี งานไม่มั่นคง อาจพิจารณาระงับการซื้อรถใหม่ไว้ก่อน
  • ควรมีเงินเก็บ ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ไม่มีอะไรแน่นอน หากต้องซื้อรถใหม่ ควรมีเงินเก็บสำรองเพื่อจะนำมาใช้ในปีที่ 3 – 5 เพราะช่วงเวลานั้นรถเริ่มมีอายุและเริ่มที่จะต้องเปลี่ยนอะไหล่ราคาแพงหลายรายการ เช่น สายพานไทม์มิ่ง , ล้อยาง , แบตเตอรี่ หากมีรายจ่ายเหล่านี้มารบกวนรายจ่ายประจำ อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการเงินได้

การเลือกใช้รถ 10 ปีต่อไปหรือเปลี่ยนเป็นคันใหม่ ขึ้นอยู่กับสภาพรถและงบประมาณของคุณ หากรถยังใช้งานได้ดีและค่าซ่อมไม่สูงมาก การใช้ต่อไปอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า แต่หากรถเริ่มมีปัญหาหนักและค่าซ่อมสูงเกินไป การเปลี่ยนเป็นรถใหม่ที่ประหยัดน้ำมันหรือรถที่มีเทคโนโลยีที่ดีกว่าอาจการตัดสินใจที่ดีกว่าในระยะยาว คิดให้รอบคอบก่อนซื้อเพื่อให้คุณได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งานและไม่สร้างภาระทางการเงินที่เกินตัว

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ