Post Views: 63
หัวเทียนรถยนต์สำคัญแค่ไหน ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้
การดูแลรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถทุกคนควรใส่ใจ หนึ่งในอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบการทำงานของเครื่องยนต์คือ ‘หัวเทียน’ ซึ่งอาจถูกมองข้ามไปบ้างในบางครั้ง เพราะเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กและมีอายุการใช้งานยาวนาน นาน ๆ จะได้เปลี่ยนสักครั้ง จึงทำให้หลายคนลืมนึกถึงหรือมองข้ามเวลาที่รถยนต์มีปัญหา สตาร์ทรถแล้วแต่เครื่องยนต์ไม่ทำงานอาจเกิดจากสภาพบกพร่องของหัวเทียนก็เป็นได้ ในบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับหัวเทียนรถยนต์ , ลักษณะการทำงานของหัวเทียนประเภทต่างๆ , อายุการใช้งาน , สาเหตุและอาการที่เกิดขึ้นเมื่อหัวเทียนบอด รวมถึงวิธีการเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์
หัวเทียนรถยนต์ คืออะไร
หัวเทียน (Spark Plug) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ของระบบจุดระเบิดที่มีหน้าที่ในการสร้างประกายไฟในการจุดระเบิดส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ หัวเทียนจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีส่วนประกอบดังนี้
- ขั้วกลาง ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนและการกัดกร่อน เช่น นิกเกิล , แพลทินัม หรืออิริเดียม ทำหน้าที่ในการส่งกระแสไฟฟ้าจากขั้วไฟฟ้าไปยังขั้วจุดระเบิดเพื่อสร้างประกายไฟ
- ฉนวน ทำจากเซรามิกซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและไฟฟ้า มีหน้าที่ในการแยกขั้วกลางออกจากตัวถังหัวเทียน ป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า
- ขั้วลบ เป็นส่วนที่ติดกับตัวถังหัวเทียนและมีลักษณะเป็นแท่งโลหะ ทำหน้าที่เป็นจุดรับประกายไฟจากขั้วกลางเพื่อให้เกิดการจุดระเบิด
- เกลียว เป็นส่วนที่มีลักษณะเป็นเกลียวเพื่อใช้ยึดหัวเทียนกับเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ยึดหัวเทียนให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในห้องเผาไหม้
- เปลือกหัวเทียน ทำจากโลหะที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและความร้อน มีหน้าที่ในการป้องกันการกระแทกและป้องกันความเสียหายของหัวเทียน
- ซีล หรือปะเก็น เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างเกลียวและตัวถังหัวเทียน ทำหน้าที่ป้องกันการรั่วไหลของแก๊สจากห้องเผาไหม้
การทำงานของหัวเทียนรถ
- เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบจุดระเบิดจะส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูงไปยังขั้วหัวเทียน
- กระแสไฟฟ้าแรงสูงจะวิ่งผ่านขั้วกลางของหัวเทียนซึ่งถูกแยกออกจากขั้วลบด้วยฉนวนเซรามิก เมื่อกระแสไฟฟ้ามาถึงปลายขั้วกลาง แรงดันไฟฟ้าที่สูงจะทำให้กระแสไฟฟ้ากระโดดข้ามช่องว่างระหว่างขั้วกลางและขั้วลบของหัวเทียน
- การกระโดดข้ามช่องว่างนี้จะสร้างประกายไฟ ซึ่งประกายไฟนี้จะจุดระเบิดส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้
- เมื่อประกายไฟเกิดขึ้น มันจะจุดระเบิดส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ การจุดระเบิดนี้จะทำให้เกิดการระเบิดที่ควบคุมได้ ซึ่งจะผลักดันลูกสูบลงไป ทำให้เครื่องยนต์สร้างพลังงานเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์
- กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ หลายพันครั้งต่อนาทีในเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างต่อเนื่องและสร้างพลังงานที่จำเป็นในการขับเคลื่อนรถยนต์
หัวเทียนมีกี่ประเภท
หัวเทียนมีหลายประเภทที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานอย่างเหมาะสมตามยุคสมัย ซึ่งหัวเทียนแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้
- หัวเทียนแบบธรรมดา หรือหัวเทียนทองแดง ทำจากทองแดงและมีราคาถูก มีอายุการใช้งานสั้น
- หัวเทียนแบบแพลทินัม บริเวณขั้วของหัวเทียนจะมีแพลทินัม มีความทนทาน ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าทองแดง รองรับการใช้งานกับรถทุกรุ่น
- หัวเทียนนิกเกิล เป็นหัวเทียนสำหรับรถรุ่นเก่า ให้กำลังไฟในการจุดระเบิดต่ำ ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้รองรับรถรุ่นใหม่ ๆ ได้
- หัวเทียนแบบอิริเดีย บริเวณขั้วหัวเทียนจะมีอิริเดียมเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนานที่สุด เหมาะกับรถที่มีเทอร์โบ หรือมีแรงม้าสูง
หัวเทียนมีอายุการใช้งานเท่าไหร่
โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของหัวเทียนขึ้นอยู่กับประเภทของหัวเทียนและการใช้งานของรถยนต์ ดังนี้
- หัวเทียนทองแดง อายุการใช้งานประมาณ 8,000-20,000 กิโลเมตร
- หัวเทียนนิกเกิล อายุการใช้งานประมาณ 15,000 – 20,000 กิโลเมตร
- หัวเทียนแพลทินัม อายุการใช้งานประมาณ 20,000-30,000 กิโลเมตร
- หัวเทียนอิริเดียม อายุการใช้งานประมาณ 50,000-100,000 กิโลเมตร
หัวเทียนบอดเกิดจากอะไร มีอาการยังไง
หัวเทียนบอดเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้งานที่นานเกินไป การเกิดคราบสกปรก หรือคราบน้ำมันที่ขั้วหัวเทียน รวมถึงการเสียหายจากความร้อน หรือการใช้งานที่ไม่เหมาะสม อาการของหัวเทียนบอด ได้แก่
- เครื่องยนต์สั่น เครื่องยนต์จะทำงานไม่ราบรื่นและเกิดการสั่น
- เครื่องยนต์อาจดับเมื่อหยุดรถหรือตอนรอบเครื่องยนต์ต่ำ
- การเร่งเครื่องยนต์จะไม่ตอบสนองเท่าที่ควร
- หัวเทียนบอดทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้ใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น
วิธีเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์
มีขั้นตอนการเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์ ดังนี้
1.เตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือสำหรับถอดหัวเทียนและกระดาษทราย
2.ทำการดับเครื่องยนต์และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์เย็นลงก่อนเริ่มทำงาน
3.ใช้เครื่องมือถอดหัวเทียนให้พร้อม แล้วทำการถอดหัวเทียนเก่าออกมาก่อน จากนั้นให้ทำการตรวจสอบความสกปรกหรือความเสียหาย
4.ทำความสะอาดบริเวณขั้วหัวเทียนด้วยกระดาษทราย หากมีคราบสกปรก
5.ใส่หัวเทียนใหม่เข้าที่เดิมและขันให้แน่นพอดี อย่าขันแน่นเกินไปเพราะอาจทำให้หัวเทียนเสียหาย
6.หลังจากเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ว่าเรียบร้อยและไม่มีปัญหาโดยการสตาร์ทรถว่าเครื่องยนต์ทำงานหรือไม่
การดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์อยู่เป็นประจำจะช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณทำงานได้ดี การรู้จักหัวเทียนและเลือกใช้หัวเทียนที่ดีมีคุณภาพจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดเชื้อเพลิง การเปลี่ยนหัวเทียนตามระยะทางที่กำหนดไว้ตามคู่มือรถจะช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถดูแลรักษารถยนต์ของตนเองได้ดีขึ้น
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ
