เคล็ดไม่ลับดูแลสีรถให้ใหม่อยู่เสมอ
การดูแลรถที่ดีจะทำให้เราประหยัดเวลาและประหยัดเงินในการซ่อมบำรุงได้มากโดยเฉพาะการดูแลสีรถยนต์ เพราะการทำสีรถใหม่นอกจากจะเสียเวลายังทำให้เราไม่สามารถใช้รถและยังเสียเงินอีกด้วย แล้ววิธีการดูแลสีรถให้ เงา สวย เหมือนรถใหม่ ต้องทำอย่างไร TPIS จะมาเผยเคล็ดไม่ลับที่ใคร ๆ ก็สามารถดูแลรถที่เรารักได้ง่าย ๆ จะมีวิธีใดบ้างมาดูกัน
1. จอดรถในที่ร่ม
เราควรจอดรถยนต์ไว้ในที่ร่มหรือที่จอดรถที่มีหลังคากำบังด้านบนเพื่อป้องกันแสงแดดในเวลากลางวัน เพราะรังสี UV ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อผิวหนังของสิ่งมีชีวิต แต่กับสีรถยนต์เองก็เป็นอันตราย เช่นกัน แสงอาทิตย์ก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์กับสีรถ ส่งผลให้สีรถซีดลง ดูเก่ากว่าสภาพความเป็นจริง นอกจากนี้ความร้อนจะมีผลกับภายในของรถยนต์อีกด้วย โดยเฉพาะวัสดุที่หุ้มคอนโซลรถและชิ้นส่วนที่เป็นหนัง หากรถตากแดดนาน ๆ ชิ้นส่วนเหล่านี้จะแห้ง แตก หากเป็นไปได้ควรจอดในที่มีร่ม และในเวลากลางคืนสำหรับที่จอดรถควรมีหลังคาเพื่อป้องกันน้ำค้างที่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยด่างของสีรถ เพียงเท่านี้เราก็สามารถดูแลสีรถให้เหมือนใหม่ และดูแลสภาพภายในได้อีกด้วย
2. ล้างรถให้ถูกวิธีโดยใช้น้ำเปล่า
การล้างรถด้วยน้ำเปล่านั้นจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของสีได้ แต่หากมีสิ่งสกปรกที่ล้างออกยากก็ควรใช้น้ำยาล้างรถที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟองน้ำถูเป็นแนวตรง หลีกเลี่ยงการถูเป็นวงกลมเพราะสิ่งสกปรกบนพื้นผิวอาจจะติดวนกลับมาขูดตัวรถได้ ไม่ควรล้างรถด้วยผงซักฟอก หรือสบู่ต่าง ๆ และห้ามใช้น้ำอุ่น หรือ น้ำร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้สีของรถเป็นรอยด่างไม่เท่ากัน
และควร เช็ดรถให้แห้ง เพราะการปล่อยให้รถผึ่งลมจนแห้งเองจะทำให้เกิดคราบน้ำ และที่ยิ่งไปกว่านั้นส่วนประกอบของน้ำ ไม่ว่าจะมาจากแหล่งไหนก็ตาม มักมีแร่ธาตุผสมอยู่ ซึ่งมีผลให้สีรถเสียหายได้ในระยะยาว
การทำให้รถแห้งจึงควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าเนื้อนุ่มเช็ดจะดีที่สุด หลังจากใช้ผ้าเช็ดแห้งเรียบร้อยแล้วอย่าลืมทำความสะอาดผ้านั้นและตากให้แห้งเพื่อใช้ล้างรถในครั้งถัดไป
แนะนำให้แยกผ้าเป็นสองผืน ผ้าสำหรับที่เช็ดด้านบน และผ้าที่เช็ดด้านล่างของตัวรถ จะช่วยให้สีรถยังคงเงางามสวยเสมอ
3. ยาเคลือบสีรถ
การเคลือบสีรถแต่ละแบบสามารถช่วยดูแลสีรถและเพิ่มความเงาสวยให้กับพื้นผิวรถปกป้องรถจากสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นละออง คราบน้ำ คราบน้ำฝน ยางไม้ หรือยางมะตอย ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยปกป้องรถจากแสงแดดUV ที่ทำให้สีรถสีหมองและซีดจางเร็วได้ และสามารถป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน รอยขนแมว จากการใช้รถหรือล้างรถได้ และการเคลือบแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรมาดูกัน
3.1 แว๊กซ์เคลือบสีรถ
แว๊กซ์เคลือบสีรถมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ
- แว๊กซ์เคลือบสีรถแบบครีม สามารถป้องกันสีรถได้ประมาณ 3-4 วัน
- แว๊กซ์เคลือบสีรถแบบน้ำ สามารถป้องกันสีรถได้ประมาณ 1 เดือน โดยเพียงแค่ใช้ฟองน้ำป้ายเนื้อแว็กซ์ แล้วขัดลงพื้นผิวรถเท่านั้น
3.2 น้ำยาซิลิโคนเคลือบสีรถ
น้ำยาเคลือบซิลิโคน จะให้ความเงางามมากกว่าแบบแว๊กซ์ และยังป้องกันรังสี UV ช่วยให้รถเงางามเหมือนใหม่ได้นานกว่า 1 ปี
3.3 น้ำยาเคลือบแก้ว
เป็นวิธีเคลือบสีรถที่มีประสิทธิภาพยาวนานถึง 5 ปี ช่วยเพิ่มความหนาของพื้นผิวรถยนต์ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน มีระดับความหนาตั้งแต่ 1-9 H แต่จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนเคลือบไม่สามารถทำเองได้
สรุป
การดูแลสีรถยนต์ให้ดูดีคงสภาพสวยเหมือนใหม่เองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก และถ้าหากรถมีรอยขีดข่วน หรือบุบเสียหายจากอุบัติเหตุเราควรรีบเคลมเพื่อซ่อมแซม เพราะรถยนต์นั้นสะท้อนถึงความใส่ใจของผู้ใช้รถด้วยนั้นเอง เพื่อที่จะสามารถดูแลรถเราให้เหมือนใหม่อยู่เสมอก็ไม่ควรปล่อยให้ประกันรถยนต์ขาดเช่นกัน หากใครที่ประกันรถยนต์ใกล้หมดสามารถต่อประกันรถยนต์ได้ที่ tripetchinsurance.com หรือ โทร. 02-792-2160
สนใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์ กรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ได้เลย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ TPIS พร้อมติดต่อกลับทันที!
TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส ที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์
เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ แถมยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน* สนใจสมัครประกันภัยรถยนต์กับตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม