ทุนประกันรถยนต์คืออะไร ควรรู้ก่อนซื้อประกันภัยรถยนต์

“ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร” สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มสนใจซื้อรถยนต์ไว้ใช้งานสักคันสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ประกันรถยนต์ มีหลายคนสงสัยกันหรือไม่กับภาษาทางประกัน คำว่า “ทุนประกัน” คืออะไร มีความสำคัญแค่ไหน

จำเป็นต้องรู้ก่อนซื้อประกันรถยนต์ ว่าทุนประกันรถยนต์คืออะไร เพราะเราเองก็ได้เลือกประเภทของประกันรถยนต์ไปแล้วไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่าวันนี้ TPIS โบรกเกอร์ประกันภัยจะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ นะครับ

ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร

ทุนประกันรถยนต์ คือ เงินที่บริษัทฯ ประกันภัยจะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อรถผู้เอาประกันภัยได้รับความเสียหายตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งประกันภัยรถยนต์จะจ่ายค่าซ่อมให้ทั้งส่วนที่สามารถซ่อมได้ และส่วนที่เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้จากอุบัติเหตุเท่านั้น หรือ

สรุปง่ายๆ “ทุนประกัน” คือ วงเงินที่บริษัทฯ ประกันภัยรถยนต์ จะจ่ายค่าเสียหาย ค่าซ่อม จากอุบัติเหตุทั้งหมดตามเงื่อนไขกรมธรรม์ เช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคุมเกี่ยวกับ รถไฟไหม้ น้ำท่วม รถหาย ภัยธรรมชาติต่างๆ หรืออื่นๆ ที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขประกันภัยที่เราทำไว้ ว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ประเภทอะไร หรือประกันภัยรถยนต์ชั้นอะไร เงื่อนไขกรมธรรม์ระบุไว้ว่าคุ้มครองแค่ไหน

สิ่งที่จำเป็น ต้องรู้ก่อนซื้อประกันรถยนต์ คือ เงื่อนไขประกันภัยรถยนต์และทุนประกันรถยนต์ จะแตกต่างกันออกไป สามารถลองเลือกเช็คประกันรถยนต์เปรียบเทียบราคาแต่ละบริษัทประกันภัยที่ไหนดี ที่ไหนคุ้ม ครอบคุมการประกันภัยต่างๆ ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ราคาค่าเบี้ยก็สูงตามการคุ้มครองเป็นเหมือนเงาเลยล่ะ

วิธีคำนวณทุนประกันภัยรถยนต์

วิธีการคำนวณทุนประกันรถยนต์จะนำราคา 80% ของรถยนต์มาคำนวณ โดยสามารถดูราคากลางของรถได้จากไฟล์แนบนี้ https://www.dlt-inspection.info/dlt/news/price2564.pdf (อัปเดต 25 ก.พ. 2564) โดยส่วนใหญ่สามารถวิเคราะห์ทุนประกันรถยนต์ จากยี่ห้อ รุ่นรถยนต์ ปีที่ผลิต เป็นต้น

ตัวอย่างการคำนวณทุนประกันรถแบบง่าย ๆ

ปีที่ 1 : รถยนต์ใหม่ปีแรก มูลค่า 2,000,000 บาท จะได้ทุนประกันเท่าไหร่ ?

คำนวณทุนประกันโดย 2,000,000 x 80% = 1,600,000 บาท

ปีที่ 2 : การประเมินทุนประกันรถยนต์จะเท่ากับ “ทุนประกันปีที่ 1 x 80%

โดยใช้ทุนประกันปีแรกเป็นที่ตั้ง = 1,600,000 บาท

โดยรถยนต์มีทุนประกันเท่ากับ 1,600,000 x 80% = 1,280,000 บาท

โดยปกติแล้ว รถป้ายแดง (ปีที่ 1) จะได้ทุนประกันประมาน 80 – 85% และรถมือสองจะได้ทุนประกันตามราคากลาง ตามไฟล์ที่แนบไว้ในข้างต้น และมูลค่าจะลดลงตามปีที่ใช้

เราลองมาเทียบเกณฑ์การประเมินของบริษัทฯ ประกันภัยรถยนต์ ว่าวิธีคำนวณทุนประกันรถยนต์ มีการคำนวณแตกต่างกันอย่างไร

ระหว่างรถใหม่ป้ายแดง กับรถยนต์มือสอง

รถใหม่ป้ายแดง

อย่างแรก เวลาเราซื้อผ่อนรถป้ายแดง จะมีการดาวน์รถอยู่ที่ 20% อีก 80% ไฟแนนซ์จะเป็นผู้ออกเงินให้ก่อน และเราต้องผ่อนคืนไฟแนนซ์ทีหลัง นั้นจึงเป็นเหตุผลที่รถป้ายแดงได้รับทุนประกัน 80%

ซึ่งจุดประสงค์ของการทำประกันอีกอย่างคือ ป้องกันความเสี่ยงในการผ่อนซากรถ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อบนท้องถนน และอาจจะร้ายแรงจนทำให้รถเราหมดสภาพการใช้งานได้ ดังนั้นเราความมีประกันรถยนต์ติดไว้ เพื่อซ่อมและดูแลรถของเราในขณะผ่อนด้วย จะได้ไม่ต้องผ่อนซากรถนะครับ

แล้วกรณีซื้อรถป้ายแดงเงินสดละ ทุนประกันของเราจะได้ 100% ไหม คำตอบคือ ไม่ แต่เราจะได้ทุนประกันอยู่ที่ 90%ของราคารถ เพราะบริษัทฯ ประกันภัยถือว่ารถป้ายแดงมีอายุการใช้งาน 1 ปี จึงคิดเป็นค่าเสื่อม 10% นั้นเอง และหลังจากนี้ จะคิดค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นปีละ 10% อีกด้วย

รถมือสอง

ในกรณีรถมือสองนั้น บริษัทฯ ประกันภัยรถยนต์จะได้รับทุนประกันภัย อยู่ที่ 90% จากราคากลาง ซึ่งเราสามารถดูราคาประเมินรถยนต์ ฉบับอัปเดทล่าสุดปี 2021 จากกรมขนส่งได้ที่เว็บไซต์กรมขนส่งทางบก https://www.dlt-inspection.info/dlt/news/price2564.pdf

ในเมื่อวิธีการประเมินทุนประกันภัยคิดแบบนี้ เราควรซื้อประกันรถยนต์ทุนประกันต่ำจะคุ้มกว่ามั้ย? หรือเลือกยังไงดี? ก่อนตัดสินใจลองมาอ่านต่ออีกสักนิด เพื่อหาคำตอบกันครับ

ทุนประกันรถยนต์สูงและต่ำ ต่างกันอย่างไร

คำตอบ คือ ใช่ !! เข้าใจถูกแล้ว ยิ่งทุนประกันเยอะ ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่แพงขึ้นด้วย แต่ในส่วนของทุนประกันมีผลยังไงกับประกันรถยนต์ ทุนมากทุนน้อยคิดต่างกันอย่างไร? หากคุณต้องการความคุ้มครองครบ ทุนประกันรถคุ้มครองสูง ค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย

โดยปกติการเลือกซื้อประกันรถยนต์ทุนสูง จำเป็นสำหรับรถใหม่ป้ายแดงที่ผู้ขับขี่ยังมือใหม่ ยังมีความไม่ชำนาญและมีความกังวลเวลาออกถนน เพราะประสบการณ์ขับรถยนต์ยังน้อย

หากเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน มีรอยขูดจนทำให้รถใหม่เป็นแผ มีเหตุที่ต้องเคลมประกัน สำหรับรถที่ทำประกันรถยนต์ประเภท 1 หรือชั้น 1 จะครอบคลุมค่าใช้ให้จ่ายทั้งหมด และหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือภัยธรรมชาติ จนรถเสียหายหนัก ประกันที่ซื้อไว้จะคุ้มครองค่าเสียหายให้คุณได้อุ่นใจ ไม่ต้องผ่อนซากรถให้ช้ำใจอีกด้วย

หากคนที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยแต่ต้องการมีประกันรถยนต์ติดรถไว้ ทุนประกันต่ำ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับ รถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน จอดทิ้งไว้นิ่งๆ หรือมักจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความชำนาญในการขับรถยนต์ มีความระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ข้อเสียของการซื้อประกันรถยนต์ทุนต่ำ คือ ความคุมครองของค่าเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ก็จะน้อยตามไปด้วย

สรุปสุดท้ายนี้

TPIS อยากให้ทุกท่านพิจารณาการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ตามความเหมาะสมและการใช้งานเป็นอย่างแรก เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าเบี้ย ไม่ต้องจ่ายเงินมากเกินไป หรือไม่ควรทำประกันภัยสูงกว่ามูลค่าจริง (Over Insured) เพราะยังไงประกันก็จะจ่ายค่าเสียหายตามจริงอยู่ดี

หากต้องการเปรียบเทียบ ทุนประกัน เบี้ยประกันภัย และอยากทราบเงื่อนไขความคุ้มครองเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนดี สามารถเช็คราคาประกันรถยนต์มีให้เลือกมากมาย ได้ที่ ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส