ประกันชีวิตสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

ประกันชีวิตสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

การทำประกันชีวิต คือหนึ่งในรูปแบบการวางแผนออมเงินระยะยาวที่หลายคนเลือกใช้ เพราะนอกจากจะมีให้เลือกหลายรูปแบบแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย เราอาจพูดได้ว่าประกันชีวิตเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่คิดวางแผนอนาคต และยิ่งสำหรับคนที่มีความกังวลด้านสุขภาพหรือคนที่กังวลเรื่องโรคเรื้อรังแล้ว การเลือกประกันชีวิตให้เหมาะกับตัวเองก็ยิ่งมีความสำคัญ เพราะค่ารักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพในระยะยาวอาจกลายเป็นภาระที่หนักหน่วงจนยากที่จะจัดการได้

ประโยชน์ของประกันชีวิตสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง

โรคเรื้อรัง หรือ Chronic Disease คือ โรคที่เมื่อเป็นแล้วผู้ป่วยมักจะมีอาการของโรคหรือต้องรักษาโรคติดต่อกันต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น โรคเบาหวาน , โรคหอบหืด , โรคหัวใจ , โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังต้องได้รับการดูแลรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง โดยอาจต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น การควบคุมอาหาร , การออกกำลังกาย , การทานยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยควบคุมอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ประโยชน์ของประกันชีวิตสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง

โดยสำหรับคนกลุ่มนี้ หากทำประกันสุขภาพเอาไว้ จะให้ประโยชน์หลายอย่าง คือ สามารถเบิกเคลมค่ารักษาในโรคเรื้อรังได้ , เบิกค่าห้อง , ค่ายา , ค่าชดเชยรายวัน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับแบบประกันที่ทำว่าเลือกซื้อความคุ้มครองแบบใด เงื่อนไขที่จะทำให้เบิกเคลมค่ารักษาได้ คือผู้ทำประกันจะต้องไม่เป็นโรคเรื้อรังนั้น ๆ ก่อนทำประกันสุขภาพ ช่วยให้ผู้ทำประกันหมดกังวลเรื่องค่ารักษาไปได้เลย ส่วนผู้ทำประกันที่มีโรคเรื้อรังก็ยังสามารถทำประกันชีวิตประเภทอื่นได้ด้วย เช่น

  • ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ช่วยให้ผู้ทำประกันมีเงินก้อนช่วงระหว่างสัญญาและเมื่อครบอายุสัญญา
  • ประกันชีวิต เมื่อเกิดเสียชีวิต ก็จะมีมรดกเงินก้อนไว้ให้ลูกหลานเป็นทุนชีวิตต่อไป มีเงินไว้ให้คนที่อยู่ข้างหลัง หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณในฐานะผู้เอาประกัน ก็แน่ใจได้เลยว่าคนที่คุณรักจะไม่ต้องลำบากมากนัก เพราะแผนประกันชีวิตส่วนใหญ่จะมีเงินให้ผู้รับผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต

การมีประกันชีวิตทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงิน แม้ในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและมีค่าใช้จ่ายสูง การมีประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาได้

การเลือกแผนประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและสุขภาพระยะยาว

การเลือกแผนประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและสุขภาพระยะยาว

สำหรับการเลือกแผนประกันสุขภาพนั้น อันดับแรกให้ดูก่อนว่าคุณพ่อคุณแม่ของเรานั้นมีโรคประจำตัวอะไรอยู่หรือไม่ เพราะหากท่านมี ก็มีแนวโน้มสูงมากที่เราจะได้โรคมรดกตัวนี้ด้วย เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่ามีความเสี่ยงจะเป็นโรคใดก็ให้มองหาแผนประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคนั้น โดยเงื่อนไขสำคัญก่อนทำคือผู้ทำประกันจะต้องไร้โรคดังกล่าวก่อนทำประกัน เพราะหากบริษัทประกันตรวจพบเจอว่าผู้ทำประกันได้เป็นโรคดังกล่าวก่อนทำประกัน ทางบริษัทประกันก็มีสิทธิ์ที่จะบอกยกเลิกสัญญาประกันได้ ซึ่งทางบริษัทประกันจะคืนเบี้ยที่ได้ส่งชำระไปแล้วให้กับผู้ทำประกัน

หากได้แผนประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและบริการด้านสุขภาพ จะถือว่ามีประโยชน์มากกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ควรตรวจสอบว่าแผนประกันที่เลือกครอบคลุมการรักษาโรคเรื้อรังที่มีอยู่หรือไม่ เช่น ยาและการรักษาเฉพาะทาง นอกจากนี้ควรเลือกแผนประกันที่มีการสนับสนุนการรักษาและการดูแลสุขภาพในระยะยาว เช่น มีการตรวจสุขภาพประจำปี , การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ , การสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลระยะยาว เป็นต้น อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือแผนประกันส่วนใหญ่ที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ มักจะมีเงื่อนไขที่ค่อนข้างละเอียด ซึ่งผู้ที่จะทำประกันควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ

สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนทำประกันในกรณีมีโรคประจำตัว

สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนทำประกันในกรณีมีโรคประจำตัว

ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันชีวิตสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรตรวจสอบข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนประกันที่เลือกจะตอบสนองความต้องการได้ดีที่สุด ขอแนะนำให้เปรียบเทียบแผนประกันจากหลาย ๆ ที่ก่อนตัดสินใจ โดยเรื่องที่ควรต้องตรวจสอบให้ดี มี 3 เรื่องคือ

  • 1. เงื่อนไขเกี่ยวกับโรคประจำตัว ต้องเช็คให้ดีว่าแผนประกันที่เลือกมีข้อกำหนดพิเศษเกี่ยวกับการรับประกันสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือไม่ เพราะบางบริษัทประกันอาจมีข้อยกเว้นในการครอบคลุมโรคบางประเภท หากศึกษาข้อมูลไม่ถี่ถ้วน จะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เพราะบริษัทประกันได้ระบุข้อมูลไว้ชัดเจนแล้ว … อย่างไรก็ตาม หากคุณทำประกันชีวิตที่ต้องตรวจสุขภาพ และตอนเริ่มต้นทำยังตรวจไม่พบโรคที่ประกันไม่คุ้มครอง ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะเมื่อทำแล้ว ประกันจะคุ้มครองคุณตามเงื่อนไขตลอดอายุสัญญา
  • 2. ระยะเวลารอคอย เป็นระยะเวลาตรวจสอบเงื่อนไขด้านสุขภาพ ก่อนที่ประกันจะเริ่มมีผลคุ้มครองตามเงื่อนไข ซึ่งผู้ที่มีโรคประจำตัวควรต้องเช็คเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน และมีโอกาสที่จะต้องใช้เวลารอความคุ้มครองนานกว่าปกติ
  • 3. เบี้ยประกันและการปรับเปลี่ยนแผน ควรเลือกแผนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หากเกิดการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ทางการเงิน หรือหากจำเป็นต้องปรับความคุ้มครองให้เหมาะสมกับสุขภาพที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ควรเลือกเบี้ยประกันตามความสามารถทางการเงิน เพราะประกันชีวิตคือการจ่ายเบี้ยประกันระยะยาว หากมีปัญหาจ่ายเบี้ยไม่ไหว ก็จะทำให้เสียสิทธิ์ความคุ้มครองที่ควรได้รับ

ปิดท้ายวันนี้ อย่างที่ได้พูดไปแล้วว่าประกันชีวิตคือเรื่องที่เหมาะกับทุกคนที่คิดวางแผนอนาคต ซึ่งสำหรับคนที่กังวลกับปัญหาสุขภาพ การเลือกแผนประกันที่ครอบคลุมก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดภาระทางการเงินและเสริมความมั่นคงให้กับอนาคตของคุณและครอบครัวได้

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ