ประกันการเดินทาง ทำแล้วคุ้มค่าหรือสิ้นเปลือง
การเดินทางไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือเพื่อธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเตรียมตัวให้พร้อมถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน กระเป๋าเดินทางหรือการเตรียมเอกสาร ถึงกระนั้นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนมักจะมองข้ามเลยก็คือ ‘การทำประกันการเดินทาง’ หลายคนอาจมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือเป็นการสิ้นเปลือง ..แต่ในความเป็นจริงแล้วประกันการเดินทางสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยบทความนี้จะพาไปดูค่าใช้จ่ายระหว่างการมีประกันการเดินทางและการไม่มีประกันการเดินทาง พร้อมเปรียบเทียบเพื่อช่วยให้คุณได้ตัดสินใจว่าการทำประกันเดินทางนั้นคุ้มค่าหรือไม่
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างมีประกันเดินทางกับไม่มีประกันเดินทาง
การมีประกันการเดินทางจะช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล , ทรัพย์สินสูญหายหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอื่นๆ เช่น เครื่องบินดีเลย์ ในขณะที่การไม่มีประกันการเดินทางอาจทำให้คุณต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เปรียบเทียบกันดูว่าในแต่ละกรณี การมีประกันการเดินทางช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างไรบ้าง
1. ค่ารักษาพยาบาล
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศมีราคาค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะในประเทศที่มีระบบการแพทย์ที่ก้าวหน้า เช่น สหรัฐอเมริกา , ยุโรป หรือออสเตรเลีย การไม่มีประกันการเดินทางอาจทำให้คุณต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองทั้งหมด ซึ่งอาจสูงถึงหลายแสนบาทหรือมากกว่านั้น
ยกตัวอย่าง หากคุณประสบอุบัติเหตุเล็ก ๆ ในสหรัฐอเมริกา ค่ารักษาในห้องฉุกเฉินอาจเริ่มต้นที่ 500-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15,000-30,000 บาท) หากเกิดอุบัติเหตุที่ต้องผ่าตัด ค่ารักษาอาจพุ่งสูงถึงหลักแสนบาท หรือในบางกรณีอาจถึงล้านบาท ยิ่งถ้าเป็นกรณีที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายฉุกเฉินยิ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
ในทางกลับกัน หากคุณมีประกันการเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ประกันจะช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรืออย่างน้อยก็ส่วนใหญ่ ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงมากจนเกินไป ประกันการเดินทางบางประเภทอาจครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสูงถึงหลายล้านบาท ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจมากขึ้น
2. ทรัพย์สินสูญหาย
การเดินทางมีความเสี่ยงที่ทรัพย์สินจะสูญหายหรือถูกขโมย เช่น กระเป๋าเดินทางที่สูญหาย หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างโทรศัพท์มือถือ หรือแล็ปท็อปที่ถูกขโมย หากคุณไม่มีประกันการเดินทาง คุณต้องแบกรับความสูญเสียด้วยตนเอง ซึ่งในบางกรณีอาจมีมูลค่าหลายหมื่นบาท การไม่มีประกันจะทำให้คุณต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียดังกล่าวทั้งหมด แต่หากคุณมีประกันการเดินทาง ประกันจะครอบคลุมค่าทรัพย์สินสูญหายหรือเสียหายตามวงเงินที่กำหนด ซึ่งจะช่วยชดเชยค่าทรัพย์สินที่สูญเสียไปและช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3. เงินชดเชยกรณีเครื่องบินดีเลย์หรือการยกเลิกตั๋วเครื่องบิน
การเดินทางโดยเครื่องบินมักเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น เครื่องบินล่าช้า , ยกเลิกเที่ยวบิน หรือความล่าช้าในการเช็คอิน หากคุณไม่มีประกันการเดินทาง คุณอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นจากความล่าช้า เช่น ค่าอาหาร , ค่าที่พัก หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการจองตั๋วใหม่
ตัวอย่าง หากเที่ยวบินของคุณถูกยกเลิกในนาทีสุดท้ายและคุณต้องจองตั๋วใหม่ในราคาที่แพงขึ้น คุณอาจต้องจ่ายเพิ่มอีกหลายพันบาท นอกจากนี้หากการดีเลย์ทำให้คุณต้องพักที่โรงแรมหรือใช้บริการอาหารเพิ่ม ค่าที่พักและค่าอาหารก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ต้องรับผิดชอบ
ในทางกลับกัน หากคุณมีประกันการเดินทาง ประกันจะช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดีเลย์หรือยกเลิกเที่ยวบิน ช่วยให้คุณไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้ทั้งหมด ประกันหลายฉบับยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น การจองที่พัก , การเปลี่ยนตั๋ว และการจัดหาอาหารให้ในกรณีเครื่องบินดีเลย์
กรณีตัวอย่างที่ประกันการเดินทางช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและประสบอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม ข้อมือได้รับบาดเจ็บ กระดูกข้อมือร้าว จำเป็นต้องบินกลับมาเพื่อรักษาตัวที่ประเทศไทย มีค่าเดินทางประมาณ 19,000 บาท , ค่าเสียโอกาสในการเดินทางที่ไม่ปกติ 4,900 บาท และค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด เพียงแต่เริ่มแรกที่เข้าการรับการรักษาตัวที่ประเทศญี่ปุ่นมีค่าใช้จ่าย ผู้เอาประกันจะต้องนำใบเสร็จตัวจริงทุกเหตุการณ์พร้อมใบรับรองแพทย์ว่าเกิดอุบัติเหตุจริงมายืนยันว่าเราเข้ารับการรักษาพยาบาลจริง จึงจะสามารถเคลมประกันทุกค่าใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเลยแม้แต่น้อย
กระเป๋าเดินทางได้รับความเสียหายระหว่างบิน
นักเดินทางกลับจากไปเที่ยว เมื่อไปรับกระเป๋าปรากฏว่ากระเป๋าเดินทางได้รับความเสียหาย จึงแจ้งที่เคาน์เตอร์สายการบิน จะได้รับค่าชดเชย 500 บาท พร้อมกับนำใบแจ้งที่เคาน์เตอร์ไปแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยเพิ่ม ทางบริษัทประกันภัยจะให้กรอกเอกสารเคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง ซึ่งผู้เสียหายจะต้องมีเอกสารยืนยันความเสียหายจากเคาน์เตอร์สายการบินที่ใช้บริการ ใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวัน , รูปถ่ายของกระเป๋าที่ได้รับความเสียหาย , ยี่ห้อ รุ่น ราคา ของกระเป๋า และสำเนาหนังสือเดินทาง เพื่อใช้ในการแจ้งเคลม จากนั้นนอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะมีการแจ้งกลับจากเจ้าหน้าที่เพื่อทำการโอนเงินค่ากระเป๋าให้ผู้เสียหายไปซื้อใหม่ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
เครื่องบินล่าช้าจนต้องจองตั๋วใหม่
คู่รักที่กำลังเดินทางฮันนีมูนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบว่าเที่ยวบินของพวกเขาถูกยกเลิกกระทันหัน และต้องจองตั๋วใหม่ซึ่งมีราคาแพงกว่าตั๋วเดิมหลายพันบาท โชคดีที่พวกเขามีประกันการเดินทางที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการจองตั๋วใหม่ ช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในทริปฮันนีมูนนี้
สรุปทำประกันการเดินทางคุ้มหรือไม่
จากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างการมีและไม่มีประกันการเดินทาง จะเห็นได้ชัดว่าประกันการเดินทางช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล , ทรัพย์สินสูญหาย หรือการยกเลิกเที่ยวบิน โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปยังต่างประเทศที่ค่าครองชีพและค่ารักษาพยาบาลสูง การลงทุนในประกันการเดินทางจึงถือเป็นการคุ้มครองตัวเองที่สำคัญ
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ