5 ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่น่าไปเที่ยวเดือนกรกฎาคม
ไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนกรกฎาคมได้จริงหรือ? แล้วมีสถานที่แห่งใดน่าสนใจบ้าง? …คงต้องบอกว่าประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่หลายคนอาจมองข้าม เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าที่พักถูกกว่าฤดูกาลใด ๆ เพราะเป็นรอยต่อระหว่างฤดูฝนกับฤดูร้อน จึงทำให้หลายคนไม่ค่อยนิยมเที่ยว
แต่ถ้าเทียบกับหน้าร้อนในประเทศไทยแล้วถือว่าอากาศกำลังดี ซึ่งคนญี่ปุ่นเองถือเป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลอง โดยในทริปนี้จะพาไปรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นและกิจกรรมที่สำคัญ ๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะมีที่ใดบ้างไปดูกัน
1.Kamakura Firework Festival (ดอกไม้ไฟคามาคุระ)
Kamakura Firework Festival เป็นหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเทศกาลดังกล่าวมีชื่อว่า ‘คามาคุระ ฮานาบิ ไทไค’ จัดขึ้นทุกปีที่ชายหาดยูอิงาฮามะ เทศกาลนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการจุดดอกไม้ไฟใต้น้ำแบบพิเศษ ดอกไม้ไฟประเภทนี้จะระเบิดในน้ำแทนที่จะระเบิดในอากาศ ซึ่งทำให้เกิดรูปทรงที่สวยงามและมีสีสันบนชั้นมหาสมุทร
งานดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นทุก ๆ ปี ในเมือง Kamakura จังหวัด Kanagawa ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ดอกไม้ไฟกว่า 2,500 ลูก ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ที่ยิงจากหาด Yuigahama Beach ดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่และมีสีสันตระการตานี้เป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างแท้จริง โดยในปี 2024 นี้จะจัดวันที่ 17 กรกฎาคม 2024 เวลา 19.20 – 20.10 น.
ที่อยู่ : 4 Yuigahama, Kamakura, Kanagawa Prefecture 248-0014
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR Yokosuka ไปยังสถานี Kamakura จากนั้นเดินต่อประมาณ 15 นาทีถึงชายหาดยูอิงาฮามะ
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
เว็บไซต์ : https://hanabi.walkerplus.com/detail/ar0314e00875/
2.Sumidagawa Firework Festival (เทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ)
หากเทศกาลดอกไม้ไฟที่ Kamakura เป็นเทศกาลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุด เทศกาลดอกไม้ไฟที่แม่น้ำสุมิดะในกรุงโตเกียวยิ่งใหญ่อลังการมากกว่า เพราะเป็นการฉลองดอกไม้ไฟแม่น้ำเรียวโกกุแบบดั้งเดิม มีดอกไม้ไฟจุดเฉลิมฉลองมากกว่าหมื่นลูก มีผู้ร่วมเข้าชมจำนวนมากเรียงรอรอชมความงามของดอกไม้ไฟทั้งสองฟากฝั่งของแม่น้ำสุมิดะ
ไฮไลท์ของงานนอกจากจะมีดอกไม้ไฟที่สวยงามนับหมื่นลูกแล้ว ยังจะได้เห็นผู้คนจำนวนมากก็พร้อมใจกันที่จะสวมใส่ชุดยูกาตะออกมาเดินตามท้องถนนและสวนสาธารณะจำนวนมาก โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในกรุงโตเกียวช่วงวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมของทุกปี เทศกาลนี้มีดอกไม้ไฟกว่า 20,000 ลูก ที่ยิงจากแม่น้ำ Sumida ดอกไม้ไฟที่นี่ยิ่งใหญ่อลังการและมีสีสันตระการตา เป็นภาพที่ประทับใจยิ่งนัก
ที่อยู่ : Tokyo Asakusa, Sumida river (มองเห็นได้ในระยะไกล)
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Asakusa, Oshiage, Tokyo Skytree
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
เว็บไซต์ : https://www.sumidagawa-hanabi.com/#
3.KOURI Ocean Tower (เกาะโคริ)
เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชมทะเลกันบ้างกับ เกาะ KOURI เกาะแห่งความรัก ตำนานโอกินาว่า ซึ่งมีสะพานโคริอันสวยงาม เชื่อมต่อ KOURI Ocean Tower เป็นหอคอยชมวิวที่ตั้งอยู่ในเขต Kunigami จังหวัดโอกินาว่า ตัวหอคอยนี้มีความสูง 82 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนหอคอยมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเมืองและท้องทะเล
บริเวณโดยรอบและตัวอาคารจะประกอบไปด้วย Tower Café ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Tower, Shop & Factory บนชั้น 1 นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย ซึ่งมีการจัดแสดงเปลือกหอยมากกว่า 10,000 ชิ้น จากทั่วทุกมุมโลก คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการค้นพบเปลือกหอยนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีร้านขายเปลือกหอยที่คุณสามารถซื้อเป็นเครื่องประดับที่ทำจากเปลือกหอยได้อีกด้วย พร้อมทั้งรับประทานอาหารที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีความสด ใหม่ จากทะเล
ที่อยู่ : 538 Kouri, Nakijin Village, Kunigami District, Okinawa Prefecture
การเดินทาง : ใช้ทางด่วนสนามบินนาฮะ และทางด่วนโอกินาว่า (โทมิกุสุคุ/นากาจิ IC – เคียวดะ IC) เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ อายุ 16 ปี ขึ้นไป คนละ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน
เว็บไซต์ : https://www.kouri-oceantower.com/
4.Mother Farm (มาเธอร์ ฟาร์ม)
สัมผัสกับฟาร์มสัตว์เลี้ยงแบบเปิดโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามที่ทุกคนไม่ควรพลาด หากได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ Mother Farm ที่แห่งนี้คุณจะพบกับความน่ารัก ซุกซนของบรรดาสัตว์เลี้ยงนานาชนิด เช่น แพะ แกะ และอัลปาก้า พร้อมชมความงามของทุ่งดอกนาโนะฮานะที่มีสีเหลืองทองอร่ามไปทั่วเนินเขา
Mother Farm แห่งนี้เป็นฟาร์มที่ตั้งอยู่ในเมือง Futtsu-shi จังหวัด Chiba ภายในฟาร์มยังมีกิจกรรมมากมายให้คุณได้ร่วมสนุก เช่น การให้อาหารสัตว์ การป้อนนมลูกแกะ ชมการแสดงสัตว์ นั่งรถชมฟาร์ม แคมปิ้ง และอีกหลากหลายรายการที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ไปเที่ยวชมความน่ารักของสัตว์นานาชนิด
ที่อยู่ : 940-3 Tagura, Futtsu-shi, Chiba-ken
การเดินทาง : ขึ้นรถเมล์จากสถานีสะนุขิมะจิ สาย JR อุจิโบ ไปมาเธอร์ ฟาร์ม (สายคะโนะซัง)
ป้ายรถเมล์ทางขึ้นหน้าสถานี JR สะนุขิมะจิ (ด้านขวาทางออกสถานี) หน้ามะขิบะ เกต มาเธอร์ฟาร์ม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ อายุ 16 ปี ขึ้นไป คนละ 1,500 เยน, เด็ก 800 เยน
เว็บไซต์ : https://www.motherfarm.co.jp/
5.Farm Tomita (ฟาร์มโทมิตะ)
ใครที่เคยเที่ยวฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาว อาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าหน้าร้อนที่ฮอกไกโดก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่มีสีสันสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น Farm Tomita หนึ่งในจุดชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุด ณ ที่แห่งนี้คุณจะได้พบกับความสวยงามของดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาชนิดอยู่เต็มไปหมด ปลูกสลับกับดอกไม้สีอื่น ๆ ให้เป็นทิวแถวที่สวยงาม Tomita ฟาร์ม ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะ จังหวัด Hokkaido ภายในฟาร์มจะแบ่งออกเป็นสวนต่าง ๆ มากถึง 13 สวน ซึ่งแต่ละสวนก็จะมีพื้นที่ในการปลูกดอกไม้นานาชนิดที่แตกต่างกันไป คุณสามารถเดินชมความงามของดอกไม้ได้ตลอดทั้งวัน
ที่อยู่ : Kisen Kita 15, Nakafurano, Sorachi, Hokkaido 071-0704
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟจาก Sapporo สาย Lilac-Kamui มาลงที่ Asahikawa แล้วนั่งรถสาย Furano Line มาลงที่ Naka-Furano Station หรือจะใช้วิธีขึ้นที่สถานีรถไฟ JR Sapporo ขึ้น JR Limited Express Super Kamui ใช้ระยะเวลาโดยประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นลงที่สถานี Asahikawa แล้วเปลี่ยนไปขึ้น JR Furano Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และไปลงที่สถานี Nakafurano
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
เว็บไซต์ : https://www.farm-tomita.co.jp/en/
สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน
สำหรับใครที่เตรียมตัวจะมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูฝน ในบางพื้นที่อาจพบกับฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง จึงจำเป็นที่จะต้องพกร่ม หรือเสื้อกันฝนมาด้วย และนี่เป็นสิ่งของที่จะต้องเตรียมมาเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน
1.เสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อน
แม้ฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นจะมีอุณหภูมิไม่สูงเมื่อเทียบเท่ากับประเทศไทย แต่ฤดูร้อนของที่นี่จะทำให้คุณไม่สบายตัว รู้สึกเหนียว เหนอะหนะ เนื่องจากลมทะเล จึงควรเตรียมเสื้อผ้าที่เป็นเสื้อยืดแขนสั้น, กางเกงขายาว หรือกางเกง 5 ส่วน, กระโปร่งควรเป็นแบบสวมใส่สบายและเหมาะสำหรับสวมใส่เพื่อเดินได้สะดวก หรืออาจเป็นชุดเดรสที่เหมาะกับฤดูร้อน อาจมีหมวก หรือผ้าคลุมยูวีเพื่อป้องกันแสงแดด รองเท้าควรเป็นแบบผ้าใบใส่กระชับและเดินได้คล่องตัว
2.ชุดกันฝน หรือร่ม
ก่อนเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว อาจจะมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ควรพกร่ม หรือชุดกันฝนไว้ติดกระเป๋า หากฝนไม่ตกก็สามารถใช้ร่มไว้สำหรับกันแดดได้
3.ครีมบำรุงผิว หรือครีมกันแดด
เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนสิ่งนี้จึงจำเป็นสำหรับป้องกันผิวหมองคล้ำ โดยเฉพาะสำหรับคนที่แพ้ง่ายควรพกครีมประจำตัวไปด้วย เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะ แม้อุณหภูมิจะไม่สูงเท่าประเทศไทย แต่แสงแดดที่ได้รับก็แทบไม่ต่างกันเลย การทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรใช้ครีมกันแดดและครีมบำรุงผิวด้วย
4.ทิชชู หรือทิชชูเปียกแบบเย็น
สิ่งที่ต้องพกทุกครั้งไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวประเทศใด ๆ ควรพกทิชชู หรือทิชชูเปียกไว้เช็ดหน้าและซับเหงื่อเพื่อความสดชื่น
5.แว่นกันแดด หมวก
อากาศที่ร้อนอบอ้าวควรจะพกแว่น หรือหมวก เพื่อป้องกันสายตาจากแสงแดดที่อาจจะทำให้สายตามีปัญหาและไม่แสบตาจากไอร้อนของแดด ในขณะที่หมวกไว้สำหรับป้องกันผิวหน้า
6.ยาสามัญประจำบ้าน
ยาสามัญที่พกติดตัวได้เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เมื่อต้องไปเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะ ยาดม ยาหม่อง ยาพารา ยาแก้เมารถ ยาป้องกันอาการหน้ามืด ตาลาย วิงเวียนศีรษะ เพื่อที่จะช่วยให้คุณมีแต่ความสุข สนุกสนาน โดยไม่ต้องพะวงกับอาการดังกล่าว
7.สเปรย์ฉีดระงับกลิ่น
สเปรย์ฉีดผิวกาย ช่วยให้สดชื่นและระงับกลิ่นกาย เมื่ออยู่ท่ามกลางอากาศที่ร้อน อาจทำให้มีเหงื่อและมีกลิ่นอับชื้น การพกสเปรย์ระงับกลิ่นกายก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณ
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อน จะต้องวางแผนการเดินทางให้ดี เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองมากมาย จึงจำเป็นที่จะต้องดูตารางการเดินรถและเส้นทางที่จะไปให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้าในการเดินทาง ตลอดจนสภาพอากาศเพื่อให้มั่นใจว่าทริปที่ไปในครั้งนี้จะไม่ล่มแล้วต้องอยู่แต่ในโรงแรม รวมไปถึงการพกพาสิ่งของเครื่องใช้ เพราะของทุกอย่างจำเป็นมาก เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำร้ายร่างกายเราได้ นอกจากนี้ควรซื้อประกันเดินทางไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในทุกทริปเดินทาง
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ