9 ที่เที่ยวโอกินาว่าแนะนำเลย เมื่อไปโอกินาว่าแล้วต้องไม่พลาด

9 ที่เที่ยวโอกินาว่าแนะนำเลย เมื่อไปโอกินาว่าแล้วต้องไม่พลาด

โอกินาว่า เป็นจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความสวยงามของท้องทะเล สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ตลอดทั้งปี แต่ละช่วงฤดูกาลก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน

เที่ยวโอกินาว่า เดือนไหนดี

ช่วงเวลาในการไปเยือนโอกินาว่าที่ดีที่สุด คือ เดือนมิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงไฮซีซั่น อากาศอบอุ่น เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า , การเล่นน้ำทะเล และกิจกรรมทางน้ำ ซึ่งหากไปเที่ยวช่วงนี้ก็จะมีนักท่องเที่ยวเยอะตามไปด้วย

ช่วงที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม เพราะอาจต้องเผชิญกับมรสุม ซึ่งเป็นช่วงที่โอกินาว่ามีโอกาสเผชิญพายุไต้ฝุ่น ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทาง

โอกินาว่ามีเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี หากอยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ต้องเช็คแผนการเดินทางให้ตรงกับช่วงเทศกาลนั้น ๆ เพื่อที่จะไม่พลาดกับขบวนแห่และการแสดงวิถีชีวิตของชุมชน

แนะนำ 9 ที่เที่ยวโอกินาว่าที่ไม่มาถือว่าพลาด

1. ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ (Naminoue Shrine)

ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ เป็นหนึ่งในแปดศาลเจ้าที่สำคัญของเกาะโอกินาว่า ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเลที่มีความสวยเด่น ตัวผาถูกแซมไปด้วยต้นไม้สีเขียวล้อไปกับสีท้องฟ้าและสีน้ำทะเลได้อย่างลงตัว เมื่อยืนอยู่บนศาลเจ้าจะมองเห็นวิวทะเลอันงดงาม บริเวณโดยรอบมีการก่อสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าชม บรรยากาศจึงเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมยุคโบราณคือศาลเจ้านามิโนะอุเอะกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่โดยรอบที่เป็นตัวอาคารเอาไว้ด้วยกัน ศาลเจ้านามิโนะอุเอะเป็นศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดในโอกินาว่า ผู้คนส่วนมากนิยมมาขอพรเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ค้าขาย ความปลอดภัยและสุขภาพ โดยจะมีเครื่องรางที่ทำจากผ้าสไตล์ริวกิวโบราณให้เช่าอีกด้วย

สำหรับใครที่ได้มีโอกาสมากราบไหว้และขอพรจากศาลเจ้านามิโนะอุเอะ จะได้พบกับความสวยงามของหาดทรายขาวที่อยู่โดยรอบศาลเจ้าแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถที่จะลงเล่นน้ำทะเลได้ มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้คอยบริการ

วิธีการเดินทาง : จากสนามบิน Naha นั่งรถไฟโมโนเรล 10 นาที ลงที่สถานีอาซาฮิบาชิเอกิ → เดิน 15 นาที
ที่อยู่ : 1-25-11 Wakasa, Naha, Okinawa 900-0031
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์ : https://naminouegu.jp/index.html

2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่จัดแสดงฉลามวาฬและสัตว์น้ำหายากจากทะเลโอกินาว่า กิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่คือการชมอุโมงค์ใต้น้ำที่พาให้คุณได้สัมผัสกับโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด ได้รับประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะโซนไฮไลต์ที่ชั้น 2 เป็นตู้ปลาขนาดมหึมาที่บรรจุฉลามวาฬตัวใหญ่ยักษ์และปลากระเบนขนาดใหญ่ว่ายวนอยู่ท่ามกลางฝูงปลาอื่น ๆ การได้เห็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เหล่านี้แหวกว่ายอย่างอิสระในบรรยากาศที่เสมือนกับเราเดินท่ามกลางท้องทะเลจริง ๆ เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและหาชมได้ยาก ในโซนชั้น 2 นี้ คุณสามารถชมปลาฉลามวาฬไปพร้อม ๆ กับการดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรดได้เลยเพราะมีคาเฟ่ไว้บริการด้วย นอกจากนี้คุณยังจะได้พบกับปลาทะเลที่มีสีสันสวยงาม ปะการังหลากหลายชนิดและสัตว์ทะเลหายากอื่น ๆ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ทางทะเลและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ มีด้วยกัน 4 ชั้น แต่ละชั้นมีการจัดแสดงสัตว์น้ำที่แตกต่างกัน บริเวณโดยรอบตัวอาคารยังเป็นโซนต่าง ๆ เพื่อแสดงความสามารถและความน่ารักของสัตว์น้ำนานาชนิด เช่น โลมา, พยูน ซึ่งการแสดงขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศในช่วงเวลานั้น ๆ

วิธีการเดินทาง : จากสนามบิน Naha นั่งรถบัสสาย Yanbaru ไปยัง Kinen Koen Mae (Okinawa Churaumi Aquarium)ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ที่อยู่ : 424 Ishikawa, Motobu-cho, Kunigami-gun, Okinawa 905-0206
ค่าเข้าชม : 1,880 เยนสำหรับผู้ใหญ่
เว็บไซต์ : https://churaumi.okinawa/en/haisai/

3. ตลาดสาธารณะมาคิชิ (Makishi Public Market)

ตลาดสาธารณะมาคิชิที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เป็นแหล่งรวมร้านค้าวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอาหารที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่คึกคัก เต็มไปด้วยของกินพื้นเมืองโอกินาว่า โดยเฉพาะอาหารทะเลสด ๆ และผลไม้ท้องถิ่นที่บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะลูกค้าสามารถที่จะเลือกซื้อปลา อาหารทะเลอื่น ๆ ขึ้นมาให้ร้านอาหารที่อยู่ชั้นบนปรุงอาหารให้รับประทานแบบสด ๆ ได้เลย สำหรับการปรุงอาหารจะมีค่าบริการส่วนนี้ด้วย ร้านอาหารที่อยู่ชั้น 2 นี้ยังเป็นร้านสุดฮิตของสายกินด้วย เพราะแต่ละร้านก็จะมีเมนูสุดฮิตของร้านไว้คอยบริการด้วย (ไม่ใช่เพียงปรุงอาหารทะเลที่ซื้อจากด้านล่างเท่านั้น) นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดที่น่าสนใจมากมาย

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yui Rail ลงสถานี Makishi จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
ที่อยู่ : 2-10-1 Matsuo, Naha, Okinawa
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์ : ไม่มี

4. ปราสาทชูริโจ (Shurijo Castle)

ปราสาทชูริโจเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโอกินาว่า ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งอาณาจักรริวกิว ปราสาทนี้ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นและจีนได้อย่างลงตัว ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีความสวยงามโดดเด่นและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง แม้ว่าจะถูกไฟไหม้หลายครั้งแต่ก็มีการฟื้นฟูอยู่เสมอ ‘ปราสาทชูริ’ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดโอกินาว่าและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจภายในปราสาทชูริ

  • ไซเด็น (Seiden) อาคารหลักของปราสาท เป็นที่ประทับของกษัตริย์ริวกิว
  • ชูเรมอน (Shureimon) ประตูใหญ่ทางเข้าปราสาท
  • สวนหลวงชิกินะ (Shurijo Castle Park) สวนสวยที่อยู่ติดกับปราสาท

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yui Rail ลงสถานี Shuri จากนั้นเดินต่ออีก 15 นาที
ที่อยู่ : 1-2 Kinjo-cho, Shuri, Naha City, Okinawa 903-0815
ค่าเข้าชม : 400 เยนสำหรับผู้ใหญ่
เว็บไซต์ : https://oki-park.jp/shurijo/en/about/

5. ถนนโคคุไซโดริ (Kokusai-dori)

หากโตเกียวมีฮาราจูกุ โอกินาว่าก็มีโคคุโดริ ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองนาฮะ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและคาเฟ่มากกว่า 600 ร้าน ทอดยาวเป็นระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร ทุกร้านมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณสามารถช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองหรือเพลิดเพลินกับอาหารพื้นเมืองอย่าง ‘ซากิซูชิ’ และ ‘ชาชู’ โดยมีร้านค้าและบริเวณที่แนะนำ ได้แก่

  • ไซออนสแควร์ ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ที่พักและร้านอาหาร
  • ถนนโคคุไซ ถนนโนเรน เป็นกูร์เมต์คอมเพล็กซ์ ที่แบ่งออกเป็น 5 พื้นที่ ได้แก่ Ryugu-dori Konamon Yokocho , Kokusai-dori Yokocho , Koza Yokocho , Ryukyu-yokocho และ Naha Market
  • ร้านบะหมี่รวมมาโฮโรบะ ร้านบะหมี่ที่มีชื่อเสียงและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ของดีของโอกินาว่า
  • ร้านสเต็ก 88 หากคุณเป็นคนชอบทานเนื้อ ต้องนี่เลย เนื้ออิชิงากิ เนื้อวากิวชั้นดีจากเกาะโอกินาว่า ที่ใคร ๆ ต้องมาลิ้มลอง เพราะเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกอย่างน้อย 20-25% เสมอ ทำให้เวลาย่างมีความชุ่มฉ่ำละมุนลิ้นโดยแท้

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกกัน เช่น การทำเครื่องปั้นดินเผา, การทำแก้วริวกิวและการระบายสี

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟโมโนเรล โอกินาว่า จากสนามบินนาฮะ ไปสถานีมาคิชิ สามารถเริ่มเดินตั้งแต่ถนนโคคุไซโดริไปจนสุดทางได้เลย
ที่อยู่ : Kokusai-dori, Naha, Okinawa
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์ : https://th.activityjapan.com/feature/okinawa-international-street/

6. เกาะโคอุริ (Kouri Island)

เกาะโคอุริ หรือ เกาะแห่งความรัก เป็นเกาะเล็ก ๆ ด้วยพื้นที่ขนาด 8 ตารางกิโลเมตร ที่มีความสวยงามไม่เล็ก เพราะเกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ประกอบไปด้วยชายหาดที่มีชื่อเสียงถึง 5 แห่ง คือ ชายหาด Tokei , ชายหาด Kouri, ชายหาด Sounu, ชายหาด Chigunu และ ชายหาด Tinu ที่มีทิวทัศน์ทะเลสวยงาม ตัวเกาะมีสะพานยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ที่เชื่อมเกาะกับแผ่นดินใหญ่ ไฮไลต์ของเกาะคือหินรูปหัวใจคู่ที่ถูกกัดเซาะจากน้ำทะเลและสายลมมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีจนกลายเป็นรูปหัวใจ ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการถ่ายรูปและพักผ่อนริมหาด

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถทำกิจกรรมทางน้ำที่มีไว้บริการได้ อาทิ การดำน้ำตื้น , การดำน้ำลึกเพื่อชมซากเรือรบ , การเล่น SUP (Stand up paddle Board) เป็นต้น

วิธีการเดินทาง : แนะนำให้เช่ารถขับจากสนามบิน Naha ใช้ทางหลวงหมายเลข 58 ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือหากอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิให้นั่งแท็กซี่ประมาณ 30นาที ก็จะถึงสะพานโคริโอฮาชิ
ที่อยู่ : Kouri Island, Nakijin, Okinawa
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์ : ไม่มีเว็บไซต์

7. แหลมมันซะโม (Cape Manzamo)

แหลมมันซะโม เป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติที่มีหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน ทำให้มองเห็นวิวทะเลกว้างไกล ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางแบบผจญภัย โดยจุดชมวิวแห่งนี้จะทำให้คุณมองเห็นน้ำทะเลที่มีสีฟ้าตัดกับสีขาวของขอบฟ้าสุดลูกหูลูกตา สามารถมายืนชมความงามของท้องทะเลและท้องฟ้าได้ตลอดทั้งวัน แหลมมันซะโมมีพิกัดให้ถ่ายรูปให้หลายจุดแบบไม่ซ้ำกันเลย

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสจาก Naha ไปลงที่ Onna Mura Yakuba Mae เดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
ที่อยู่ : 2870-1 Onna, Kunigami-son, Kunigami-gun, Okinawa
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์ : ไม่มีเว็บไซต์

8. สวนชิคินาเอน (Shikinaen Royal Garden)

สวนชิคินาเอน สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นกับความงามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่เคยเป็นที่พักผ่อนของราชวงศ์ริวกิว สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดและสระน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลาง บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยดอกไอริส ดอกบัว ที่ให้ความรู้สึกสงบเงียบเหมาะสำหรับการพักผ่อน สวนชิคินาเอนเป็นการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานเอาสถาปัตยกรรมแบบจีนเอาไว้อย่างลงตัว โดยมีอาคารหลักที่เรียกว่า ‘อูดูน’ ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในอดีต นอกจากนี้ยังมีสะพานหินที่ทอดข้ามสระน้ำที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์และโรงน้ำชาสำหรับรับต้อนรับแขกและผู้มาเยือน

วิธีการเดินทาง : เดิน 2 นาทีจากป้ายรถเมล์ ชิคินะเอน-มาเอะ ซึ่งให้บริการโดยรถประจำทางสาย 2, 3, 5 และ 14
ที่อยู่ : 421-7 Maaji, Naha, Okinawa 902-0072
ค่าเข้าชม : 400 เยนสำหรับผู้ใหญ่
เว็บไซต์ : https://www.gltjp.com/en/directory/item/13316/

9. เกาะโทะคะชิกิ (Tokashiki Island)

เกาะโทะคะชิกิเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเคะระมะ (Kerama Islands) ที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลใสและหาดทรายขาว เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นและชมปะการัง เกาะโทะคะชิกิ อยู่ทางตอนเหนือของนาฮะ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 33 กิโลเมตร บนเกาะมีคนอาศัยอยู่ จึงมีทั้งโรงเรียน ร้านค้า และที่พัก รอบ ๆ เกาะยังมีจุดดำน้ำตื้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวดำชมปะการังและสัตว์น้ำขนาดเล็ก และจุดดำน้ำลึกเพื่อชมความงามของใต้ท้องทะเลที่ได้รับการขนานนามว่า ‘Kerama Blue’ นอกจากจะมีกิจกรรมทางน้ำให้ได้ร่วมแล้วยังมีกิจกรรมเดินป่าเพื่อสำรวจพื้นที่ของเกาะด้วย

วิธีการเดินทาง : นั่งเรือเฟอร์รีจาก Tomari Port ในเมือง Naha ใช้เวลาประมาณ 70 นาที หากเป็น Speed Boat ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
ที่อยู่ : Tokashiki Island, Tokashiki, Okinawa
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม (ค่าตั๋วเรือเฟอร์รีประมาณ 2,000 เยน)
เว็บไซต์ : https://www.japan-guide.com/e/e7192.html

โอกินาว่าเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ไม่ว่าคุณจะมาท่องเที่ยวในฤดูกาลไหน โอกินาว่าจะมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร (ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในช่วงมรสุม) การเดินทางภายในโอกินาว่านอกจากรถบัสแล้ว สามารถเช่ารถขับเอง หรือใช้บริการรถไฟ monorail ได้

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ