แนะ 4 สถานที่ท่องเที่ยวน่าเที่ยวในญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคม

แนะ 4 สถานที่ท่องเที่ยวน่าเที่ยวในญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคม

เดือนตุลาคมถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มเย็นสบาย ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีสันสวยงาม เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมมาใช้เวลาเพื่อพักผ่อนก่อนถึงฤดูหนาวที่จะมาถึง สำหรับใครที่สนใจไปเยือนประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ขอแนะนำ 4 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคมที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่งจะมีที่ใดบ้างไปดูกัน

1. Hitachi Kaihin Kouen

Hitachi Kaihin Kouen

Hitachi Kaihin Kouen เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ มีความสวยงามตลอดทั้งปี โดดเด่นด้วยทุ่งดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาล โดยในเดือนตุลาคมท่านจะได้พบกับทุ่งดอกโคเชีย (Kochia) สีแดงสดไปทั่วทุ่งกว้าง สร้างทิวทัศน์สวยงามราวกับภาพวาด นอกจากนั้นยังมีทุ่งดอกคอสมอส (Cosmos) ที่เบ่งบานสวยงามในช่วงเวลาเดียวกัน คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินเล่น , ปั่นจักรยาน หรือถ่ายภาพท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามแบบที่ยากจะหาจากที่ใดเหมือน ที่นี่ยังเหมาะกับการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวชม เพราะมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น , การศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพืชและสัตว์ , กิจกรรมศิลปะอย่างการปั้นเครื่องปั้นดินเผา , กิจกรรมจักรยาน BMX , กิจกรรมโรยตัวจากต้นไม้ใหญ่ในอุทยาน ฯลฯ อีกทั้งภูมิศาสตร์ของที่นี่นั้นมีทั้งผืนป่า , น้ำพุ และทะเล รวมไว้ที่เดียวกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบรสใช้เวลาได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อจริง ๆ

การไปเที่ยวชมสวน Hitachi Kaihin Kouen แห่งนี้ ขอแนะนำให้เช่าจักรยานเพื่อปั่นชมความสวยงามของหมู่มวลดอกไม้และวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะบนจุดสูงสุดของสวนหากมองออกไปจะพบกับวิวทะเลและชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ตั้งสูงเด่นให้ทุกท่านสามารถเข้าใช้บริการเพิ่มชมความงามของสวนดอกไม้แห่งนี้ได้อย่างจุใจ

การชมทุ่งดอกไม้ใน Hitachi Kaihin Kouen เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและหาจากที่อื่นไม่ได้ ความงดงามของธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต เพื่อสัมผัสกับความสดใสและพลังของธรรมชาติ

ค่าเข้าชม :
ผู้ใหญ่ 450 เยน (ตั้งแต่นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป)
ผู้สูงอายุ 210 เยน (อายุ 65 ปีขึ้นไป)
เด็ก 80 เยน (อายุ 7-14 ปี)
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าฟรี
ค่าเช่าจักรยาน มีทั้งแบบเต็มวันและรายชั่วโมง และแบ่งเป็นค่าเช่าของผู้ใหญ่ และเด็ก
ผู้ใหญ่ :
3 ชั่วโมง 600 เยน
1 วันเต็ม 800 เยน
เด็ก :
3 ชั่วโมง 300 เยน
1 วันเต็ม 400 เยน

ที่อยู่ : 605-4 Onuma, Mawatari, Hitachinaka, Ibaraki 312-0012, Japan
การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟสาย JR Joban Line ไปยังสถานี Katsuta ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสหรือแท็กซี่ต่อไปยังสวน Hitachi Kaihin Kouen อีกประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์ : https://hitachikaihin.jp/

2. Yomiuri Land

Yomiuri Land

Yomiuri Land สวนสนุกขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงโตเกียว มีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องของกิจกรรมที่สนุกๆ อย่างการจัดแสดงไฟประดับในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และที่สำคัญราคาค่อนข้างถูก คนเยอะในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงขั้นต้องแย่งกัน หรือต่อแถวยาว ๆ เพื่อเข้าเล่น ที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินกับการเล่นเครื่องเล่นนานาชนิด รวมถึงชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีจากกระเช้าลอยฟ้าที่สวยงามในยามเย็น

Yomiuri Land เป็นสวนสนุกที่ผสมผสานระหว่างความสนุกของเครื่องเล่นพร้อมชมความงดงามของธรรมชาติ มีเครื่องเล่นต่าง ๆ มากมายตั้งแต่แบบผจญภัยไปจนถึงเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการแสดงไฟประดับ (Illumination) ที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวซึ่งเป็นหนึ่งในแสงสีที่สวยงามที่สุดในโตเกียว

การได้เล่นเครื่องเล่นสนุกพร้อม ๆ กับการชมไฟประดับที่ Yomiuri Land จะทำให้คุณได้ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมทั้งในรูปแบบครอบครัว คู่รัก หรือเพื่อนฝูง .. ที่นี่นอกจากจะมีเครื่องเล่นให้เล่นแล้วภายในยังมีโชว์แมวน้ำแสนรู้ให้ได้ดูอีกด้วย สำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2024 นี้ มีด้วยกัน 3 กิจกรรม คือ งานประดับไฟสี Yomiuriland Jewellumination เริ่มจัดในวันที่ 24 ตุลาคม , เปิดบริการชิงช้าสวรรค์ Sky-Go-Land ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ (และจะเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2025 เท่านั้น) , กิจกรรม “Gintama” x Yomiuriland สำหรับใครที่เป็นแฟนอะนิเมะการ์ตูนเรื่อง Gintama ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมที่สวนสนุกได้จัดขึ้นมาเพื่อแฟน ๆ โดยเฉพาะ นอกจากจะมีกิจกรรมสนุก ๆ แล้ว ในงานยังมีสินค้าเกี่ยวกับ Gintama และเมนูอาหาร Gintama ให้แฟน ๆ ได้ลิ้มรสอีกด้วย งานนี้จัดตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม – 14 ตุลาคมนี้ ใครเป็นเอฟซี Gintama ต้องรีบไปแล้วนะ

ค่าเข้า : ราคาค่าเข้ายังไม่รวมราคาเครื่องเล่น
เด็ก 3-5 ขวบ 1,000 เยน
เด็ก 6-11 ขวบ 1,000 เยน
เด็กโต 12-17 ปี 1,500 เยน
ผู้ใหญ่ 18-64 ปี 1,800 เยน
ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 1,000 เยน
ที่อยู่ : 4015-1 Yanokuchi, Inagi, Tokyo 206-8725, Japan
การเดินทาง : จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) นั่งรถไฟสาย Keio Line ไปยังสถานี Keiō-Yomiuriland ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินไปขึ้นรถบัส สาย Yomiuri 01 นั่งสุดสายลงที่ปลายทาง จะเป็นทางหน้าสวนสนุกพอดี ค่าโดยสารรถบัสผู้ใหญ่ เที่ยวละ 240 เยน เด็ก 120เยน
เว็บไซต์ : https://www.yomiuriland.com/

3. Echigo Yuzawa

Echigo Yuzawa

เปิดประสบการณ์เที่ยว Echigo Yuzawa ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ชมความงดงามของธรรมชาติในวันที่ไร้หิมะ อีกหนึ่งความงามที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะการนั่งกระเช้า Dragondora ที่มีความยาวถึง 5,481เมตรซึ่งยาวที่สุดในญี่ปุ่น (แบบหมุนวนอัตโนมัติสายเดี่ยว) เชื่อมต่อระหว่างนาเอบะ-ทะชิโร เพื่อชมทัศนียภาพบนยอดเขายามที่ใบไม้ทั้งหมดเป็นสีแดง พร้อมแช่ออนเซ็นท่ามกลางวิวใบไม้เปลี่ยนสี เป็นประสบการณ์ที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายและทำให้จิตใจสงบ นอกจากนี้ยังมีสาเกท้องถิ่นที่ควรลองชิมสักครั้งเมื่อได้มาเยือนเมืองนี้ เพราะโดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเที่ยวที่ Echigo Yuzawa เฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมหนาแน่น เพราะที่นี่มีลานสกีและสกีรีสอร์ทไว้คอยบริการ ซึ่งจะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป โดยถ้ามาในช่วงเดือนตุลาคมจะเห็นใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ในขณะที่มาในช่วงเดือนกุมภา-มีนาพื้นที่ทั้งหมดจะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน

Echigo Yuzawa เป็นเมืองในจังหวัดนีกาตะ มีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุร้อน (Onsen) และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสกับธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นท่ามกลางวิวภูเขาและใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งแคมป์ปิ้งที่ ไดเกนตะ Canyon Camp , ตกปลา ที่ยูซาวา Fishing Park , การผจญภัยในรูปแบบของทาร์ซานที่ Forest Adventure ยูซาวานาคาซาโตะ นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเคลื่อนที่ไปตามต้นไม้ด้วยวิธีการลอยในอากาศเหมือนทาร์ซานจากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง หรือการทำเส้นโซบะจาก ห้องครัวทดลอง นอกจากนี้ยังสามารถลิ้มรสสาเกท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นี้ได้อีกด้วย ใครที่ได้แวะมาจะต้องไม่พลาด

ที่อยู่ : Yuzawa-machi, Minamiuonuma-gun, Niigata 949-6101, Japan
การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Joetsu Shinkansen ไปยังสถานี Echigo Yuzawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
เว็บไซต์ : https://www.e-yuzawa.gr.jp/language_eng/

4. Rurikoin

Rurikoin

ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามและเป็นที่นักท่องเที่ยวนิยมแล้ว วัดก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะวัดรุริโคอิน (Rurikoin) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 วัดที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในเขตซะเคียว จังหวัดเกียวโต มีชื่อเสียงในเรื่องของวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนพื้นห้องและหน้าต่างของวัด ที่นี่คุณจะได้พบกับความเงียบสงบและความงามของธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วง แม้ตัววัดจะไม่ค่อยกว้างใหญ่มากนัก แต่วิวที่ได้รับชมอลังการมาก นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจะต้องห้ามพลาดเก็บภาพความงามของวิวโดยรอบตัวอาคารของวัดนี้

วัดรุริโคอิน เป็นวัดที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของเกียวโต มีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนพื้นห้องและหน้าต่างของวัด ภายนอกมีการจัดสวนหินและบ่อน้ำที่จำลองให้เหมือนมังกรบินลงมาจากสรวงสวรรค์ ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปวิวและสีสันของต้นไม้ ใบไม้นานาชนิดจะต้องไม่พลาด เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปหลากหลายมุม โดยเฉพาะเงาสะท้อนของใบไม้สีสดใสกับผืนน้ำที่ยากจะหาที่ใดเปรียบ บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบ เหมาะกับคนที่ต้องการความสงบสุขพร้อม ๆ กับชมความงดงามของธรรมชาติที่สวยงามเหมือนภาพวาด

Rurikoin เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวควรได้ไปสัมผัสกับความสงบและความงดงามของธรรมชาติในระดับที่ลึกซึ้ง วิวใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่เป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น การได้มาสัมผัสความสงบของวัดในฤดูใบไม้ร่วงจะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงถึงวัฒนธรรมและธรรมชาติของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง .. สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปที่ Rurikoin จะต้องใช้รถสาธารณะเท่านั้น เพราะที่นี่ไม่มีที่จอดรถสำหรับรถส่วนตัวไว้บริการ

ค่าเข้าชม : ในการเข้าชมจะเป็นรอบ โดยรอบหนึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ควรวางแผนในการเดินทางและการเข้าชมให้ดี
ผู้ใหญ่ 2,000 เยน
เด็ก (มัธยม) 1,000 เยน
เด็กประถมเข้าฟรี
ที่อยู่ : 55 Kamitakano Higashiyama, Sakyo Ward, Kyoto 601-1255, Japan
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Eizan มาลงทีสถานี Yase-Hieizanguchi จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที หรือจะนั่งรถบัสจากสถานี Kyoto Station ด้วย Kyoto Bus หมายเลข 17 มาลงที่ป้าย Yase Eki mae และเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
เว็บไซต์ : https://rurikoin.komyoji.com/

ต้องบอกว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมนต์เสน่เป็นอย่างมาก เพราะสามารถที่จะเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละสถานที่ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละช่วงฤดูกาล การเยือนสถานที่ทั้งสี่แห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการเที่ยวชมธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่คุณจะหวนคิดถึงไปตลอดชีวิต ทั้ง 4 สถานที่นี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางในเดือนตุลาคม

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ