ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา vs. ประกันชีวิตตลอดชีพ เลือกแบบไหนดีกว่า

ในช่วงวัยทำงาน สิ่งที่แทบทุกคนคิดเหมือนกันคือการวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต เพราะไม่ว่าคุณจะมีครอบครัวหรือไม่ อนาคตที่มั่นคงก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะมีเครื่องมือทางการเงินให้เลือกมากมาย แต่หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมก็คือการทำประกันชีวิต ซึ่งการทำประกันชีวิตเองก็มีให้เลือกหลายประเภทเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่จะทำประกันจึงมีความจำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อให้เลือกประเภทประกันให้เหมาะกับเป้าหมายทางการเงิน หากแบ่งประเภทตามระยะเวลาความคุ้มครองจะแบ่งได้สองประเภทคือประกันแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance) และประกันแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) ในบทความนี้จะชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักทั้งสองประเภทนี้
ความต่างของประกันทั้งสองประเภท
ก่อนที่จะรู้ว่าประกันแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และเหมาะกับใคร จำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่าประกันทั้งสองประเภทคืออะไร .. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาคือประกันที่จะให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาที่ระบุไว้ (เช่น 10 หรือ 20 ปี) โดยเมื่อพ้นจากช่วงความคุ้มครองแล้วก็จะไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ
ส่วนประกันชีวิตแบบตลอดชีพคือแผนประกันที่เมื่อจ่ายค่าเบี้ยจนครบแล้วจะยังคงให้ความคุ้มครองแก่ผู้ทำประกันไปจนกว่าจะเสียชีวิต (เช่น จ่ายเบี้ย 15 ปี ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี) และเมื่ออยู่จนครบสัญญา ก็จะได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

บทความ รายได้ไม่แน่นอน ควรทำประกันชีวิตแบบไหนเพื่อคนในครอบครัว
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของประกันชีวิตแต่ละประเภท
เมื่อรู้แล้วว่าประกันทั้งสองประเภทคืออะไร ก็มาดูข้อดี-ข้อเสีย เพราะทั้งสองประเภทต่างก็มีจุดแข็งและจุดที่ควรพิจารณาทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วจะทำให้รู้ได้ว่าเราควรซื้อประกันประเภทใด
- ประกันแบบชั่วระยะเวลา
จุดเด่นของประกันประเภทนี้คือค่าเบี้ยประกัน เพราะค่าเบี้ยต่ำกว่าประกันชีวิตตลอดชีพในวงเงินคุ้มครองที่เท่ากัน ซึ่งเหตุที่ทำได้แบบนี้ก็เพราะระยะเวลาความคุ้มครองที่จำกัด จึงจัดเป็นรูปแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองสูงในราคาที่เอื้อมถึง ช่วยเพิ่มโอกาสให้สามารถเข้าถึงความคุ้มครองที่สูงได้โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยมาก อีกจุดเด่นคือเป็นประกันที่เหมาะสำหรับการป้องกันความเสี่ยงระยะสั้น เช่น การคุ้มครองหนี้สิน , การคุ้มครองการศึกษาของลูก ประกันแบบชั่วระยะเวลาเหมาะกับคนที่ยังมีภาระค่าใช้จ่ายและต้องการความคุ้มครองเผื่อเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่อยู่ในกำหนดความคุ้มครอง
ส่วนข้อเสียของประกันแบบชั่วระยะเวลา สิ่งแรกคือไม่มีเงินคืนเมื่อครบกำหนดอายุสัญญา หมายความว่าหากคุณอยู่จนครบอายุสัญญา จะไม่ได้รับผลตอบแทน นอกจากนี้ถ้าต้องการความคุ้มครองต่อเนื่องก็จำเป็นต้องต่อกรมธรรม์ใหม่ซึ่งมีค่าเบี้ยสูงขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น อีกข้อเสียหนึ่งคือไม่สามารถเป็นแผนเพื่อการออมเงินระยะยาวได้ เพราะผลตอบแทนถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ต้น ประกันจึงไม่มีมูลค่าตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น
- ประกันชีวิตตลอดชีพ
ข้อดีของประกันประเภทนี้ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต ผู้ทำประกันไม่ต้องกังวลว่ากรมธรรม์จะหมดอายุ นอกจากนี้ยังใช้เป็นแผนการออมเงินได้ด้วย โดยเฉพาะคนที่ต้องการสร้างมรดกให้คนที่อยู่ข้างหลัง และหากต้องการใช้เงินฉุกเฉินระหว่างอายุสัญญา บางแผนประกันยังให้คุณกู้เงินจากกรมธรรม์มาใช้ได้ด้วย
หากเปรียบเทียบกับประกันแบบชั่วระยะเวลา ข้อเสียที่สำคัญของประกันประเภทนี้ก็คือค่าเบี้ยแพงกว่าเมื่อเทียบกับวงเงินคุ้มครองที่เท่ากัน หากมองในแง่ของผลตอบแทน ประกันประเภทนี้ก็ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าการลงทุนประเภทอื่น (เช่น หุ้น หรือกองทุนรวม) นอกจากนี้เมื่อต้องจ่ายเบี้ยระยะยาว หากมีปัญหาทางการเงินทำให้จ่ายเบี้ยไม่ไหว ก็อาจต้องยกเลิกกรมธรรม์และได้รับผลตอบแทนเพียงบางส่วนเท่านั้น
วิธีเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายทางการเงิน

เมื่อเข้าใจถึงข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบประกันแล้ว ต่อมาจะเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเลือกแบบประกันเพื่อให้เหมาะกับเป้าทางการเงิน ซึ่งสามารถจำแนกได้โดย
- เลือกประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ถ้าคุณต้องการความคุ้มครองระยะสั้น เหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายทางการเงินคือการหาตัวช่วยเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่มีระยะเวลาแน่นอน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าการศึกษาของลูก หรือการคุ้มครองรายได้ของครอบครัว เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับคุณในระหว่างอายุสัญญา ผลตอบแทนที่ได้รับจะช่วยให้ครอบครัวจัดการภาระทั้งหมดได้
- เลือกประกันแบบชั่วระยะเวลา หากเป้าหมายคือต้องการความคุ้มครองสูงด้วยงบประมาณที่จำกัด
- เลือกประกันชีวิตตลอดชีพ หากเป้าหมายทางการเงินของคุณคือการปกป้องครอบครัวในระยะยาว และต้องการมีเงินก้อนไว้เป็นมรดกให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง
- เลือกประกันแบบตลอดชีพ หากคุณมีรายได้มั่นคง และมั่นใจว่าสามารถจ่ายค่าเบี้ยได้ตลอดอายุสัญญาเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มที่
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ