รู้หรือไม่ รถผ่อนอยู่ก็ทำรีไฟแนนซ์ได้
คุณเคยประสบปัญหาแบบนี้ไหม มีภาระมากมายทั้งผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนวนไปจนท้อใจ ไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่ต้องจ่ายในทุกๆเดือน ถ้าเดือนไหนหมุนเงินไม่ทันก็ไม่รู้จะไปหาเงินจากที่ไหนดีจะหยิบยืมใครก็ไม่ได้ วันนี้อีซูซุลิสซิ่ง ขอแบ่งปันเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดปัญหากังวลใจ ให้คุณได้เงินก้อนจากรถแม้จะกำลังผ่อนอยู่ และสามารถนำเงินส่วนนี้ไปต่อยอดธุรกิจ หรือนำไปหมุนเวียนเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในครอบครัวได้ ซึ่งการรีไฟแนนซ์สินเชื่อรถยนต์จะมีวิธีการอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลย!!
ใครหลายๆ คนมักเข้าใจว่า การรีไฟแนนซ์นั้น จะทำได้เฉพาะรถที่มีการผ่อนชำระทั้งหมดแล้วเท่านั้น แต่ๆ รู้หรือไม่…รถยนต์ที่ยังผ่อนชำระไม่หมด ก็สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์รถได้เช่นกัน โดยสามารถยื่นขอกับสถาบันการเงินเดิมที่เจ้าของรถเป็นลูกหนี้อยู่ หรือจะเปลี่ยนเป็นสถาบันการเงินแห่งใหม่เลยก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของรถอาจจะต้องผ่อนมามากกว่า 40-50% ของยอดหนี้รถยนต์ทั้งหมด หรือ ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินนั้นเป็นผู้กำหนด และก่อนที่เราจะเลือกทำรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใดนั้น ควรพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ เบื้องต้น ดังนี้
1. ปัจจัยเกี่ยวกับ ยี่ห้อ/รุ่น/อายุ ของรถยนต์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยี่ห้อ, รุ่นรถ และ อายุรถ มีผลต่อการประเมินวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ยิ่งเป็นรถยนต์ที่มียี่ห้อและเป็นรุ่นที่ผู้คนนิยมใช้นั้น มักจะได้ราคาประเมินที่ดีกว่ารุ่นหรือยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ส่วนอายุรถ ถ้าหากรถที่ต้องการทำรีไฟแนนซ์นั้นค่อนข้างเก่า (อายุรถมาก) จะได้ราคาประเมินที่น้อยกว่ารถที่มีอายุน้อย โดยทั่วไปอายุรถที่จะสามารถทำรีไฟแนนซ์ได้นั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินแต่ละแห่งที่กำหนดแตกต่างกันไป สำหรับอีซูซุลิสซิ่งเรารับรีไฟแนนซ์รถยนต์อีซูซุทุกรุ่นที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี เลยทีเดียว
2. ปัจจัยทางด้านผู้กู้
ปัจจัยทางด้านตัวของผู้กู้เอง ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการประเมินวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์ เช่น ปัจจัยด้านรายได้, ประวัติการผ่อนชำระสินเชื่ออื่นๆ ในอดีตและปัจจุบัน, ความชัดเจนของเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ใช้เพื่อประกอบการขอสินเชื่อ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นการสร้างความหน้าเชื่อถือให้แก่ตัวผู้กู้เองถึงความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต
3. เปรียบเทียบเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินต่างๆ
ก่อนที่เราจะทำการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น ควรที่จะหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริการ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขและข้อเสนอต่างๆ ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เพื่อเปรียบเทียบดูข้อดี ข้อเสีย และเลือกเงื่อนไขที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
3.1 อัตราดอกเบี้ย
การเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยนับเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ โดยเราสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินต่างๆ ได้ ซึ่งสถาบันการเงินแต่ละแห่งจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไปตามเงื่อนไขของแต่ละที่ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพิจารณาจากประเภทถยนต์ ระยะเวลาในการผ่อนชำระ และอายุของรถยนต์ที่ใช้ในการขอสินเชื่อ ซึ่งในปัจจุบันดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของอีซูซุลิสซิ่งเริ่มต้นเพียง 0.25% ต่อเดือน* เท่านั้น (อัตราดอกเบี้ยแท้จริง 5.65% – 14.68% ต่อปี)
3.2 วงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่ได้
โดยสำหรับรถยนต์ที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระนั้น จะสามารถทำรีไฟแนนซ์ได้ถ้าหากผ่อนชำระไปสักระยะหนึ่งจนกระทั่งยอดวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์มากกว่ายอดหนี้ของรถยนต์ปัจจุบัน (เหลือเงินก้อนส่วนต่างหลังจากปิดยอดหนี้เดิมกลับไปใช้) หรือตามกฎเกณฑ์ของสถาบันการเงินแต่ละแห่งที่รับรีไฟแนนซ์กำหนด โดยวงเงินสินเชื่อจะมากหรือน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับราคาประเมินรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งถ้าเป็นรถยี่ห้อหลักและเป็นรุ่นที่อยู่ในความนิยมของตลาดที่กล่าวไปข้างต้นจะได้ราคาที่ดี นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ อายุรถ และสภาพการใช้งานรถ ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ใช้ในการประเมินวงเงินสินเชื่่อรถด้วยเช่นกัน
3.3 ระยะเวลาผ่อนชำระ
การเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระ มีผลต่อค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือน ยิ่งเลือกระยะเวลาผ่อนนาน ค่างวดต่อเดือนก็จะน้อยลง ทำให้เราสามารถจัดการชีวิตได้ง่ายขึ้น แต่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าสามารถผ่อนจ่ายค่างวดตามเงื่อนไขไหวหรือไม่ ในสถาบันการเงินหลายๆ แห่ง มีระยะเวลาการผ่อนชำระให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น ไม่เกิน 60 เดือน หรือไม่เกิน 72 เดือน โดยอีซูซุลิสซิ่งเองก็มีบริการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ลูกค้าสามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้หลายแบบ โดยสามารถเลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 84 เดือน
3.4 ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การทำรีไฟแนนซ์ กรณีที่ย้ายไปทำสถาบันการเงินที่ใหม่ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิ ค่าประเมินรถ, ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ, ค่าอากรแสตมป์ (จากการเปลี่ยนผู้ถือกรรมสิทธิ์รถ) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเหล่านี้ต้องนำไปคำนวณว่า ส่วนต่างดอกเบี้ยที่ประหยัดได้จากการรีไฟแนนซ์ หรือประโยชน์อื่นใดที่เราได้ จะคุ้มกับรายจ่ายเหล่านี้หรือไม่
4. เงินส่วนต่างที่ได้รับ
เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทางสถาบันการเงินจะแจ้งรายละเอียดเงินส่วนต่างที่เหลือกลับ เราสามารถพิจารณาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละสถาบันมาประกอบการพิจารณา เพื่อดูข้อดี ข้อเสีย และความพึงใจของเรา ว่ารู้สึกเห็นชอบกับตัวเลือกของสถาบันไหนมากกว่ากัน
5. ประกันรถยนต์
รถยนต์ที่จะใช้ในการทำรีไฟแนนซ์นั้น ส่วนใหญ่สถาบันการเงินต่างๆ มักจะกำหนดเงื่อนไขว่าควรต้องมีประกันรถยนต์ที่มีระยะเวลาความคุ้มครองเหลือตามกำหนด รวมถึงประเภทประกันรถยนต์จะต้องเป็นไปตามเงือนไขซึ่งมักจะสอดคล้องกับวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่ได้ ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองความรับผิดชอบทั้งต่อบุคคลภายนอก ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงความเสียหายต่อตัวรถ
และทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อ เคล็ดลับควรรู้ก่อนนำรถมารีไฟแนนซ์ ที่ช่วยเพิ่มประโยชน์และความมั่นใจให้คุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากคุณพิจารณาตามเงื่อนไขเหล่านี้รับประกันเลยว่าการรีไฟแนนซ์ของคุณในครั้งนี้จะไม่เสียเปล่าและยังมีเงินก้อนไปใช้เพื่อแบ่งเบาภาระที่ทำให้คุณปวดหัวอยู้ในตอนนี้อย่างแน่นอน และถ้าหากคุณเป็นลูกค้าอีซูซุลีสซิ่งที่กำลังผ่อนชำระค่างวดมาสักระยะหนึ่งหรือมีรถยนต์อีซูซุปลอดภาระ และสนใจทำรีไฟแนนซ์ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือแจ้งข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับตามด้านล่าง กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด