เริ่มต้นธุรกิจ ด้วยแนวคิดคนรุ่นใหม่
อย่างแรกที่เราต้องถามตัวเองก่อนเริ่มทำธุรกิจ คือ เราอยากจะใช้ชีวิตอย่างไร อาจฟังดูไม่เกี่ยวข้องกันแต่ที่ต้องตั้งคำถามนี้กับตัวเองก่อน เพราะบางคนแค่ “อยากทำธุรกิจ” แต่ไม่ได้อยากเป็นนักธุรกิจ และบริหารธุรกิจจริงๆ จนสุดท้าย ก็ต้องปิดกิจการไป แต่ถ้าหากแน่ใจแล้วว่าต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่รู้จะ เริ่มต้นธุรกิจ ขายสินค้าหรือบริการอะไร ให้คิดถึงสิ่งที่เราถนัดว่า สามารถแก้ไขปัญหาอะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง หากคิดออกและพร้อมชนทุกปัญหาแล้วล่ะก็ มาอ่านกันต่อได้เลยครับ
1. ต้องรู้จุดอ่อน จุดแข็ง ของสินค้าหรือบริการของเราคืออะไร
การรู้จุดอ่อนจุดแข็งของสินค้าและบริการของเราจะเป็นการกำหนดทิศทางของธุรกิจทั้งเรื่องของการโฆษณาสินค้า และบริการว่าควรนำอะไรมาเป็นจุดเด่นให้ลูกค้ารับรู้ และอะไรที่เป็นจุดอ่อน ควรแก้ไขเพื่อให้สินค้า/บริการดีขึ้น
2. กลุ่มเป้าหมายที่เราอยากให้เขาซื้อสินค้า หรือใช้บริการของเราคือใคร
นี่อาจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะการที่เราสร้างสินค้า/บริการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาแต่ไม่รู้ว่าใครต้องการสินค้า/บริการของเรา คงเป็นเรื่องยากที่มากที่จะนำเสนอให้ตรงใจกับคนที่จะซื้อของเรา ดังนั้นควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายคร่าวๆ และค่อยๆเจาะลึกกลุ่มเป้าหมายไปทีละน้อยจนชัดเจน
3. ลูกค้าสามารถเข้าถึงเราได้อย่างไร
สำหรับข้อนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนการทำให้ลูกค้าเข้าถึงเราได้ง่ายคงเป็นเรื่องของสถานที่ ทำเลที่ตั้ง แต่สำหรับธุรกิจสมัยใหม่คงจะเป็นเรื่องของ แพลตฟอร์ม หรือเว็บไซด์ หากสินค้า/บริการของเราได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่หน้าแรกๆ ของ แพลตฟอร์ม หรือเว็บไซด์ ลูกค้าก็จะสามารถเข้าถึงเราได้ง่ายขึ้น
4. ธุรกิจของเรามารถสร้างความมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างไรบ้าง
ถึงการทำธุรกิจสมัยใหม่จะเน้นหนักไปในทางออนไลน์มากกว่าหน้าร้าน แต่การประติสัมพันธ์กับลูกค้าก็ไม่ได้น้อยลงเลย เพราะลูกค้าสามารถเห็นและเข้ามาสอบถามถึงสินค้า/บริการของเราได้ตลอดเวลา
ดังนั้น การสร้างกิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วม ถือเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ลูกค้าเห็นร้านของเราได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ให้ลูกค้าใหม่ กลายเป็นลูกค้าประจำได้ในอนาคต
5. วัตถุดิบในการทำธุรกิจของเราคืออะไร
หากเราทำธุรกิจผลิตสินค้าขาย เราสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่เหมาะกับสินค้าเราเพื่อสร้างคุณภาพ และความแตกต่างกับสินค้าของบริษัทฯ อื่นได้อย่างไร
นอกจากนี้หากเรารู้จักวัตถุดิบที่หลากหลายเราอาจจะหาวัตถุดิบทดแทนเพื่อลดต้นทุนได้อีกด้วย
6. ขั้นตอนไหนสำคัญที่สุดในธุรกิจ
เราจำเป็นต้องรู้ขั้นตอนสำคัญไม่ว่าจะเป็นการผลิต การขนส่ง หรือการดูแลวัตถุดิบ เราจะได้รู้ว่าต้องใส่ใจขั้นตอนไหนเป็นพิเศษ เพื่อคุณภาพที่ดีของสินค้า/บริการ
7. รายได้หลักของเรามาจากอะไร
เราจะต้องรู้ให้แน่ชัดว่าธุรกิจของเราสร้างรายได้มาจากไหนเป็นหลัก การขายสินค้า การให้บริการ หรือการให้เช่าใช้ทรัพย์สิน เพื่อคำนวณรายได้ ต้นทุน และกำไรให้แม่นยำ
8. ใครคือคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเรา
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการทำธุรกิจไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งคู่ค้าอาจจะหมายถึงแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ เว็บที่ให้บริการด้านต่างๆ โรงงานหรือร้านขายของทั่วๆ ไปก็ได้
9. ธุรกิจของเรามีต้นทุนอะไรบ้าง
นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายๆ ธุรกิจทำพลาดจนขาดทุน เพราะการคำนวณต้นทุนไม่ใช่เพียงแค่นำเงินที่ลงทุนไปหักลบกับกำไรของสินค้าหรือบริการที่ได้มา แต่ต้องคำนวณถึงค่าแรง ค่าขนส่ง ค่าเสื่อม ค่าเสียเวลา ภาษี หรือค่าจิปาถะ อื่นๆ ที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำด้วย
นอกจากนี้การใช้เงินกู้จากแบงค์เป็นต้นทุนก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่แย่ เพราะจะเป็นการดึงแบงค์ให้ลงมาช่วยเรารับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการทำธุรกิจ และควรทำ รายรับ-รายจ่าย ของธุรกิจและค่าใช้จ่ายส่วนตัวแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
10. ธุรกิจต่อยอดได้ไหม
หลังจากธุรกิจไปได้สวยแล้วเราอาจจะต้องคิดถึงขั้นตอนต่อไปด้วยว่า สามารถนำสินค้าไปแปรรูป หรือต่อยอดการบริการของเราได้หรือไม่
แต่ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจด้วยว่าเราอยู่ในสถานการณ์ไหนและควรทำอย่างไรต่อ ทั้งกรณี ที่ดีที่สุด (best case) กรณีที่แย่ที่สุด (worst case) และ กรณีเฉลี่ย (average case)
สรุป
จาก 10 ข้อ ที่กล่าวมา การทำธุรกิจจะต้องเกี่ยวกับการบริหารสิ่งต่างๆ รวมถึงคนด้วยเพราะธุรกิจไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ถึงยุคนี้ลูกค้าจะเป็นคนเดินเข้าหาสินค้ามากกว่า และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการตลาดหากเป็นการทำธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer) แต่สกิลการขายก็ยังจำเป็นอยู่ยิ่งเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) การสกิลการขายยิ่งสำคัญ
ดังนั้น ควรรู้ว่าใครที่ควรจ้าง และอะไรที่ควรจ่าย ทั้งค่าจ้างพนักงานขาย งบการตลาด หรือการประกันความเสี่ยงต่างๆ ในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ส่งสินค้า ประกันสุขภาพพนักงาน หรือประกันชีวิตเพื่อให้คนข้างหลังดูแลธุรกิจต่อจากเราได้ หากสนใจสอบถามข้อมูลหรือเปรียบเทียบเบี้ยประกันสามารถติดต่อได้ที่ www.tripetchinsurance.com หรือ โทร. 02-792-2160