ประกันชีวิตแบบไหน ลดหย่อนภาษีได้บ้าง

ประกันชีวิตแบบไหน ลดหย่อนภาษีได้บ้าง

ผู้ที่มีงานประจำ มีเงินเดือนและรายรับรวมเป็นจำนวนมากกว่า 310,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามกฎหมาย ยิ่งมีรายได้เยอะก็ยิ่งเสียภาษีมาก แต่ถ้ามีภาระส่วนตัวและภาระครอบครัวที่ต้องจ่ายก็สามารถขอลดหย่อนภาษีได้ … การลดหย่อนภาษีคือการนำรายการที่กฎหมายกำหนดไว้ไปหักออกจากเงินรายได้ที่จะต้องเสียภาษี เพราะรายการเหล่านั้นถือเป็นภาระจำเป็นของผู้มีเงินได้ที่ต้องจ่าย เช่น ลดหย่อนจากค่าเลี้ยงดูบุตร , บิดา มารดา , ลดหย่อนจากการคลอดบุตร เป็นต้น นอกจากนี้ การบริจาคเงินช่วยเหลือสังคมก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถใช้สิทธิ์ขอลดหย่อนภาษีได้

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้เป็นจำนวนมากคือการนำเงินไปลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออม , การลงทุนในกองทุน สามารถนำหลักฐานไปยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงการซื้อประกันชีวิต ผู้เอาประกันสามารถนำหลักฐานการจ่ายค่าเบี้ยประกันไปยื่นลดหย่อนภาษีได้ด้วยเช่นกัน และถ้าหากคุณกำลังสนใจเกี่ยวกับการทำประกันลดหย่อนภาษี ก่อนที่จะตัดสินใจทำ ควรต้องศึกษาเงื่อนไขของประกันแต่ละประเภทด้วยว่าแบบไหนลดหย่อนได้บ้าง และลดหย่อนได้เท่าไร ซึ่งประกันชีวิตที่ได้ลดหย่อนภาษีได้ คือ

ประกันสุขภาพ

แบบแรกคือ ประกันสุขภาพ เป็นรูปแบบของการประกันค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย หรือได้รับบาดเจ็บ และยังได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีอีกด้วย ประกันสุขภาพที่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้มีอยู่ 2 ลักษณะ คือ

ประกันสุขภาพ
  • ประกันสุขภาพของตัวเอง สามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท และหากมีประกันประเภทอื่น ๆ ที่ลดหย่อนได้ด้วย การยื่นขอลดหย่อนรวมทุกประเภทจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  • ประกันสุขภาพให้บิดา-มารดา ยื่นลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท แต่ถ้าในครอบครัวเดียวกันมีพี่น้องหลายคน ต่างคนต่างทำประกันให้บิดา-มารดา ทุกคนสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้ โดยการหารเฉลี่ยค่าเบี้ยประกันเท่ากัน ๆ กัน รวมทุกคนไม่เกิน 15,000 บาท

ประกันภัยอุบัติเหตุ

ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ประกันประเภทนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้แต่ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองไม่น้อยกว่า 10 ปี ค่าเบี้ยประกันสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษี สูงสุด 100,000 บาท โดยใช้สิทธิได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง

ประกันภัยการดูแลระยะยาว

หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับประกันประเภทนี้ ประกันภัยการดูแลระยะยาวเป็นการให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันที่ไม่สามารถทำภารกิจในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงวัย เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนอิริยาบทจากนอนไปนั่ง เดิน แต่งตัว อาบน้ำ ทานอาหาร โดยทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อย่างน้อย 3 อย่างเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 180 วัน ในกรณีนี้จะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ และผู้เอาประกันสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ด้วย

ประกันภัยการดูแลระยะยาว

ประกันภัยโรคร้ายแรง

เป็นการทำประกันที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง , โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงกรณีที่อวัยวะภายในล้มเหลว เช่น ไตวาย หลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง หากมีการตรวจพบจะได้รับเงินชดเชยเพื่อใช้ในการรักษาโรค รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในช่วงที่ทำการรักษาด้วย และประกันประเภทนี้ก็รวมอยู่ในประกันที่สามารถลดหย่อนภาษีได้

นอกจากนี้ การทำประกันแบบบำนาญก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการลดหย่อนภาษี ประกันแบบบำนาญจะคล้ายกับการทำประกันสะสมทรัพย์ไว้ใช้ยามเกษียณ และคล้ายกับการที่ข้าราชการได้รับเงินบำนาญ มั่นใจได้ว่าชีวิตสุขสบายแม้ออกจากงานแล้ว และเบี้ยประกันที่จ่ายชำระก็ยังสามารถนำไปลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี

รู้อย่างนี้แล้ว ควรเลือกทำประกันชีวิตไว้ ได้ประโยชน์หลายต่อ ทั้งความคุ้มครอง ความอุ่นใจ และได้ลดภาษี ทั้งนี้ในการลดหย่อนภาษีนั้น สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ยื่นต่อกรมสรรพากรก็คือหนังสือรับรองการชำระค่าเบี้ยประกันที่บริษัทประกันออกให้ โดยมีชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัย หนังสือรับรองนี้ใช้เป็นหลักฐานประกอบที่ต้องยื่นไปพร้อมกับ ภงด 90/91 ภายในกำหนดเวลาจ่ายภาษีในแต่ละปี หากว่าคุณมีหลักฐานเหล่านี้ เงินที่ถูกหักภาษีจะลดน้อยลงและยังอาจได้รับเงินคืนอีกด้วย

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ